ผงะ 14 ศพ ซัดเกยหาดเมียนมา หลังเรือผู้อพยพโรฮีนจาล่ม ขณะมุ่งหน้าไปมาเลย์
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างการเปิดเผยของตำรวจเมียนมา เมื่อกลางดึกคืนวันจันทร์ (23 พ.ค.) ว่า มีศพผู้เสียชีวิต 14 ศพ ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดนอกเมืองย่างกุ้งของเมียนมา ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุว่า ศพผู้เสียชีวิตมีเด็กชาวโรฮีนจารวมอยู่ด้วย และน่าจะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย จากเหตุเรือล่มกลางทะเลนอกชายฝั่ง ซึ่งหน่วยกู้ภัยระบุว่าเรือลำดังกล่าวประสบเหตุขณะจะมุ่งหน้าไปประเทศมาเลเซีย
พันโท ตุน ส่วย โฆษกตำรวจในเมืองพะสิม ที่อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง ไปทางตะวันตกราว 200 กิโลเมตร เปิดเผยว่า พบศพผู้เสียชีวิต 14 ราย และอีก 35 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าของเรือได้รับการช่วยชีวิตขึ้นฝั่งมาได้
แม้รายละเอียดยังไม่ชัดเจน แต่ยูเอ็นเอชซีอาร์อ้างรายงานว่าเรือลำดังกล่าวออกมาจากเมืองสิตตะเว ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา เมื่อ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา และเผชิญกับกระแสน้ำรุนแรง ก่อนจะจมลงกลางทะเลในสองวันถัดมา
หนึ่งในสมาชิกกู้ภัยพะสิม เปิดเผยว่า พบศพผู้เสียชีวิตบนชายหาดเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา ด้านนักเคลื่อนไหวชาวโรฮีนจา กล่าวว่า ศพผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 12 ราย และเด็ก 2 ราย โดยเรือลำดังกล่าวได้บรรทุกผู้คนที่มาจากเมืองบูทิดวง หม่องดอ และสิตตะเว
ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งให้ข้อมูลกับทีมกู้ภัยว่ามีผู้ที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว 61 คน โดยยังมีผู้สูญหายอีก 12 คน
โฆษกตำรวจเมืองพะสิมกล่าวว่า ผู้รอดชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือทั้งหมด ถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจเมืองพะสิม แต่ไม่ได้มีการระบุว่า ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับพวกเขาหรือไม่ ขณะที่ที่ผ่านมาชาวโรฮีนจา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในเมียนมา มักถูกดำเนินคดีเมื่อถูกจับกุมตัวไว้ได้ขณะพยายามจะหลบหนีออกจากเมียนมา
ทั้งนี้ มีชาวโรฮีนจานับหลายแสนคนที่ได้หลบหนีออกจากเมียนมาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากถูกกองทัพเมียนมาปราบปรามอย่างหนักในปี 2017