ยูเครนชี้พบเหตุเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม 1.5 หมื่นกรณี
ไอรีนา เวเนดิกโทวา อัยการสูงสุดของยูเครน ระบุว่า มีกรณีต้องสงสัยว่าจะเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม หลังรัสเซียเริ่มต้นรุกรานยูเครนถึงราว 15,000 กรณี และยังมีการรายงานการกระทำที่เข้าข่ายดังกล่าวเข้ามาเพิ่มขึ้นถึงราว 200-300 กรณีต่อวัน
เวเนดิกโทวากล่าวว่า รายชื่อของผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมสงครามดังกล่าว มีตั้งแต่ผู้บัญชาการทหาร นักการเมือง รวมถึงหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย
ในกรณีทั้ง 15,000 เคสที่ถูกระบุว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม เวเนดิกโทวาชี้ว่า หลายพันกรณีเกิดขึ้นในภูมิภาคดอนบาสซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน และเป็นดินแดนที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างทหารยูเครนกับรัสเซียในปัจจุบัน
เวเนดิกโทวากล่าวว่า กรณีที่เข้าข่ายการก่ออาชญากรรมสงครามในพื้นที่ดังกล่าวยังรวมถึงการบังคับให้ผู้คนเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ของรัสเซีย การทรมานและสังหารพลเรือน รวมถึงการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนอีกด้วย
เวเนดิกโทวากล่าวว่า แม้ว่าจะมีการเริ่มต้นการสอบสวนเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงครามในภูมิภาคทางฝั่งตะวันออกของยูเครนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียในขณะนี้ได้ พวกเขาจึงหาข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้อพยพรวมถึงเชลยศึกแทน และยอมรับว่า การสอบสวนเป็นไปอย่างยากลำบากมาก เมื่อการสู้รบยังคงดำเนินไปอยู่ในเวลาเดียวกัน
อัยการสูงสุดของยูเครนบอกด้วยว่า ขณะนี้ประเทศเอสโตเนีย ลัตเวีย และสโลวาเกีย ได้เข้าร่วมกับยูเครนในความพยายามที่จะสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ด้านโปแลนด์และลิทัวเนียก็คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เช่นกัน
ด้านศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ระบุว่า ขณะนี้ยูเครนถือเป็นที่เกิดเหตุ และไอซีซีได้ส่งทีมสืบสวนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเข้าไปในยูเครนเพื่อช่วยในการสอบสวนแล้ว ทั้งยังหวังว่าจะเปิดสำนักงานในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนต่อไป
