ยูเอ็นชี้รัฐประหารทำผู้พลัดถิ่นเมียนมาทะลุล้าน

(แฟ้มภาพ) Free Burma Rangers / AFP

ยูเอ็นชี้รัฐประหารทำผู้พลัดถิ่นเมียนมาทะลุล้าน

สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ความรุนแรงหลังการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน ได้ผลักดันให้ตัวเลขของผู้พลัดถิ่นในเมียนมาเกิน 1 ล้านคนเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งเตือนถึงสถานการณ์อันเลวร้าย ขณะที่ฤดูมรสุมกำลังใกล้เข้ามา ขณะที่การต่อสู้ก็ยังดำรงคงอยู่

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ระบุว่า มีชาวเมียนมาเกือบ 7 แสนคนที่ถูกบังคับให้ทิ้งบ้านเรือน หลังกองทัพได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี

พลเรือนได้รวมตัวกันเป็นกองกำลังติดอาวุธเพื่อต่อต้านการรัฐประหารทั่วประเทศ ขณะที่รัฐบาลทหารได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีกลับ ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าการตอบโต้เหล่านั้นยังรวมถึงการรื้อถอนหมู่บ้าน การวิสามัญฆาตกรรม และการโจมตีทางอากาศต่อพลเรือน

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้มีผู้พลัดถิ่นชาวเมียนมาเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้พลัดถิ่นเดิมที่มีอยู่แล้วราว 346,000 คน ก่อนการรัฐประหาร ซึ่งรวมถึงผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งยาวนานของกลุ่มกบฎและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ตามแนวชายแดน รวมถึงชาวมุสลิมโรฮีนจาที่ต้องเผชิญกับการปราบปรามอันโหดร้ายในปี 2560

Advertisement

UNOCHA ระบุว่า มีทรัพย์สินของพลเรือนมากกว่า 1.2 หมื่นแห่งถูกเผาหรือทำลายทิ้ง ในขณะนี้ฤดูมรสุมที่กำลังใกล้เข้ามายิ่งทำให้ความทุกข์ยากของผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยยิ่งเลวร้ายลงมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้พลัดถิ่นมากกว่า 3 แสนคนมาจากสะกาย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งกองกำลังต่อต้านรัฐบาลได้ปะทะกับกองกำลังของกองทัพเมียนมาเป็นระยะ ขณะที่ทางการได้ตัดการให้บริการมือถือในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งยังมีข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งข้าว ยารักษาโรค และน้ำมันไปยังพื้นที่ดังกล่าวด้วย

รายงานของ UNOCHA ระบุว่า ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการด้านสุขภาพ อาหาร สิ่งของบรรเทาทุกข์ และที่พักพิงในพื้นที่เหล่านี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image