ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานกองทุนสำรองแห่งรัฐ (เฟด) หรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา กล่าวในการแถลงให้การต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ว่าความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่ยังคงอยู่ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้อัตราการจ้างงานของบริษัทเอกชนชะลอตัวลง พร้อมเน้นย้ำว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 2 ของเฟด มีแนวโน้มน้อยลงที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
นางเยลเลนกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่เธอชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นจากจีน และระบุว่า สภาพการณ์ทางการเงินกลายเป็นตัวสนับสนุนการเติบโตของสหรัฐน้อยลงกว่าเดิม โดยอ้างถึงการร่วงลงของราคาหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นสำหรับผู้กู้ที่มีความเสี่ยง และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนไม่ได้ถอยห่างจากนโยบายของเธอที่จะค่อยๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ ทีละนิด โดยระบุว่า การจ้างงานอย่างต่อเนื่องและรายได้ควรจะสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายกระตุ้นทางการคลังของรัฐบาลในต่างประเทศควรจะช่วยส่งเสริมอัตราการเติบโต ทั้งนี้ เธอไม่ได้บอกว่าแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดครั้งต่อไประหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้จะเป็นอย่างไร