นาทีประวัติศาสตร์! สหภาพยุโรป ให้ยูเครนได้สถานะผู้สมัครสมาชิกอียู
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า ผู้นำชาติสหภาพยุโรป 27 ชาติ อนุมัติให้ “ยูเครน” ได้ “สถานะผู้สมัครสมาชิกสหภาพยุโรป” อย่างเป็นทางการแล้ว ย่างก้าวที่ทั้งยูเครน และอียูต่างประกาศว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์”
รายงานระบุว่า แม้จากนี้ยูเครนอาจต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปีที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นทางการ แต่การให้สถานะผู้สมัครสมาชิกอียูดังกล่าวเป็น “สัญลักษณ์” ที่แสดงให้เห็นว่าอียูต้องการขยายอาณาเขตเข้าไปในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตมากขึ้นเรื่อยๆ
นายโจเซป บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป ระบุว่า ชาวยูเครนเป็นครอบครัวยุโรป อนาคตของยูเครนนั้นอยู่กับอียู
“วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางอันยาวไกลที่เราจะเดินไปด้วยกัน” บอร์เรลล์ระบุ
ด้านนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า อนาคตของยูเครนอยู่ในอียู พร้อมกับแสดงความยินดีกับการให้สถานะดังกล่าวกับยูเครนว่าเป็นช่วงเวลาพิเศษและเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาตร์
รายงานระบุว่า กระบวนการยื่นขอเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครนนั้นเริ่มต้นอย่างเป็นทางการหลังจากรัสเซียนำกำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่อียูเร่งกระบวนการอนุมัติสถานะให้แบบเร่งด่วน
นอกจาก “ยูเครน” แล้ว ยังมีเพื่อนบ้านของยูเครนอย่าง “มอลโดวา” ที่ได้รับการอนุมัติสถานะผู้สมัครสมาชิกอียูด้วย ขณะที่ “จอร์เจีย” อีกหนึ่งประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ก็แสดงความต้องการก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกันว่าจะยื่นขอสถานะในทันทีที่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขของอียูได้
ด้านนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ลาเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ตนเชื่อว่ายูเครนและมอลโดวาจะทำงานหนักให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อทำให้เกิดการปฏิรูปที่จำเป็นตามเงื่อนไขของการเป็นชาติสมาชิกอียูต่อไป
รายงานระบุว่า สถานะผู้สมัครสมาชิกอียูนั้นไม่ได้มีเงื่อนไขในเรื่องการรับรองด้านความมั่นคงในทันที อย่างไรก็ตาม หากอียูได้รับการรับรองเป็นสมาชิกอียูแล้ว ยูเครนจะได้รับความคุ้มครองภายใต้ธรรมนูญยุโรปที่ระบุไว้ว่า หากสมาชิกตกเป็นเหยื่อของการรุกรานโดยใช้อาวุธ ชาติสมาชิกอียูมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือตามแต่อำนาจที่แต่ละประเทศพึงมี
ทั้งนี้ ก่อนหน้าเกิดสงครามในยูเครนขึ้น นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย คัดค้านการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ของยูเครน ท่าทีซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นการขยายอาณาเขตที่เป็นภัยคุกคามกับความมั่นคงของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ปูตินระบุเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า รัสเซียไม่คัดค้านยูเครนที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูเนื่องจากไม่ใช่การแสวงหาพันธมิตรทางการทหาร
