‘บอริส จอห์นสัน’ ดิ้นรนกอดเก้าอี้ หลัง 2 รมต.สำคัญลาออก วิพากษ์ภาวะผู้นำ

‘บอริส จอห์นสัน’ ดิ้นรนกอดเก้าอี้ หลัง 2 รมต.สำคัญลาออก วิพากษ์ภาวะผู้นำ

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดทางการเมืองอีกครั้ง หลังรัฐมนตรีคนสำคัญ 2 คนในรัฐบาลของเขาคือนายริชี ซูนัก รัฐมนตรีคลัง และนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีสาธารณสุข ประกาศลาออกจากตำแหน่งในเวลาไล่เลี่ยกันเพียง 10 นาที จากนันยังมีรัฐมนตรีคนอื่นๆ และผู้ช่วยอีกจำนวนหนึ่งลาออกตามไปด้วย

อย่างไรก็ดีจอห์นสันประกาศชัดเจนว่า เขามีแผนที่จะยังคงดำรงตำแหน่งต่อไป และหันไปหาความสนับสนุนให้กับรัฐบาลด้วยการประกาศชื่อผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญทั้ง 2 ตำแหน่งแทน ด้วยการตั้งนาดิม ซาฮาวี รัฐมนตรีศึกษาธิการเป็นรัฐมนตรีคลัง และให้นายสตีฟ บาร์เคลย์ หัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่

ทั้งซูนักและจาวิดไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ในจดหมายลาออกพวกเขาระบุถึงความน่าเชื่อถือของจอห์นสันในฐานะผู้นำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วันรัฐบาลของจอห์นสันเพิ่งเผชิญกับข่าวฉาวล่าสุดเมื่อนายคริส พินเชอร์ ได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานวิป ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดที่คอยดูแลเรื่องระเบียบวินัยของพรรค เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเขาลวนลามชาย 2 คนที่สโมสรส่วนตัว แต่พินเชอร์ปฏิเสธข้อกล่าวหา

ในครั้งแรก สำนักงานของจอห์นสันระบุเขาไม่ทราบประเด็นนี้เมื่อเลื่อนตำแหน่งให้จอห์นสันเมือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ในเวลาต่อมานายไซมอน แมคโดนัลด์ อดีตข้าราชการที่มีอาวุโสสูงสุดของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษในปี 2015-2020 ออกมาระบุว่า สำนักงานของจอห์นสันไม่ได้พูดความจริง

Advertisement

ในจดหมายที่แมคโดนัลด์ส่งถึงกรรมาธิการของรัฐสภาว่าด้วยเรื่องมาตรฐานระบุว่า เขาได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของพินเชอร์ตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2019 ไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในกระทรวง พร้อมกับยืนยันว่าจอห์นสันได้เข้ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อร้องเรียนและผลการสอบสวนความผิด ซึ่งพินเชอร์ยังได้ออกมาขอโทษต่อการกระทำของตนเองด้วย

ไม่นานหลังจากแมคโดนัลด์ออกมาให้ความเห็น สำนักงานของจอห์นสันได้ออกมาปรับเปลี่ยนคำชี้แจงอีกครั้ง โดยอ้างว่าจอห์นสันลืมไปว่าพินเชอร์เคยถูกร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และตัวจอห์นสันยังให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าการลาออกของรัฐมนตรีทั้ง 2 คนว่า พินเชอร์ควรถูกไล่ออกหลงเหตุการณ์ในปี 2019

เมื่อถูกถามว่าการแต่งตั้งพินเชอร์ให้รับตำแหน่งในรัฐบาลถือเป็นความผิดพลาดหรือไม่ จอห์นสันกล่าวว่า เขาคิดว่ามันเป็นความผิดพลาด และขอโทษสำหรับเรื่องดังกล่าว เมื่อมองย้อนกลับไป มันป็นการกระทำที่ผิดพลาด

Advertisement

คำอธิบายและจุดยืนที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของจอห์นสัน ทำให้เกิดความไม่พอใจในคณะรัฐมนตรี ที่ถูกบังคับให้ต้องออกมายืนยันการคำปฏิเสธของจอห์นสัน ก่อนที่คำอธิบายนั้นจะถูกเปลี่ยนไปอีกทางในอีกเพียงหนึ่งวันถัดมา

ในหนังสือลาออก จาวิดกล่าวว่า การลงคะแนนก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นว่า “สมาชิกสภาของพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวนมากสูญเสียความไว้วางใจในตัวจอห์นสันไปแล้ว มันเป็นช่วงเวลาแห่งความต้อยต่ำ การยึดเกาะ และทิศทางใหม่ ผมสียใจที่จะต้องบอกว่าสถานการณ์จะไม่เปลี่ยนแปลงไปภายใต้การนำของจอห์นสัน และผมก็สูญเสียความมั่นใจต่อคุณเช่นกัน”

ขณะที่หนังสือลาออกของซูนักระบุว่า ประชาชนมีสิทธิอย่างถูกต้องที่จะคาดหวังว่ารัฐบาลจะทำสิ่งต่างๆ ที่เหมาะควร ทำสุดความสามารถ และทำอย่างจริงจัง เขารู้ว่านี่อาจเป็นการรับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายของตนเอง แต่เขาเชื่อว่ามาตรฐานเหล่านี้คุ้มค่าที่จะต่อสู้เพื่อมัน และนั่นคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ซูนักและจาวิดถูกมองว่า เป็นคู่แข่งที่เป็นไปได้ที่จะเข้าชิงตำแหน่งผู้นำแทนที่จอห์นสันหากเขาถูกบีบให้ต้องลาออก อย่างไรก็ดีกว่าที่พรรคอนุรักษ์นิยมจะจัดลงคะแนนไม่ไว้วางใจการทำหน้าที่ของจอห์นสันได้ก็ต้องรอไปอีก 1 ปี ขณะที่กลุ่มกบฏในพรรคที่ต่อต้านการเป็นผู้นำของจอห์นสันก็กำลังพยายามให้มีการเปลี่ยนข้อบังคับพรรคเพื่อเร่งจัดการกับผู้นำที่ไม่ได้รับความยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างจอห์นสัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image