นายกฯผู้ดีกอดเก้าอี้แน่น อ้างหากลาออกประเทศจะวุ่นวาย
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งกำลังประเชิญกับมรสุมทางการเมืองครั้งใหญ่ เมื่อคณะรัฐมนตรีหลายคนพากันตบเท้าลาออก เพราะรับไม่ได้กับการทำหน้าที่ผู้นำของเขาซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาอื้อฉาว แต่เจ้าตัวก็ยังดิ้นรนต่อสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องพ้นจากตำแหน่งต่อไป
จอห์นสันปฏิเสธข้อเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากตำแหน่งในการประชุมรัฐสภา แม้ว่าจะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลลาออกเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการทำหน้าที่ผู้นำของเขา รวมถึงมีรายงานข่าวว่า คณะรัฐมนตรีบางคนยังได้ไปพูดคุยกับจอห์นสันที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเพื่อบอกให้เขาลาออก แต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับใดๆ จากเจ้าตัวเช่นกัน
สื่ออังกฤษรายงานว่า จอห์นสันปฏิเสธคำแนะนำให้เขาหาทางออกที่สง่างาม แต่กลับยืนยันว่าจะยังคงต่อสู้เพื่อรักษาอาชีพทางการเมืองของตนต่อไป โดยอ้างว่ายังคงมีประเด็นสำคัญอย่างยิ่งที่อังกฤษกำลังเผชิญอยู่ ขณะที่จอห์นสันได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่ามันจะเกิดความโกลาหลวุ่นวายหากเขาลาออกจากตำแหน่ง
สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมของจอห์นสันหลายคนวิตกกังวลว่าเขาไม่มีความชอบธรรมทางศีลธรรมในการทำหน้าที่ผู้บริหารอีกต่อไป ในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องมีการตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อรับมือกับปัญหาสำคัญ ไม่ว่าจะการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและพลังงาน รวมถึงการรับมือกับโควิด-19 และสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้หลายคนกังวลว่าสถานการณ์ในขณะนี้อาจนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่
ในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะตอบคำถามกับสมาชิกรัฐสภาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ฝ่ายค้านได้ตะโกนไล่จอห์นสันว่า “ออกไป ออกไป” แม้แต่สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมก็ยังออกมาท้าทายภาวะผู้นำของจอห์นสันเช่นกัน
นายซาจิด จาวิด อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จุดชนวนวิกฤตให้กับจอห์นสัน เมื่อเขาประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันอังคารที่ผ่านมาได้กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาว่า การกระทำของจอห์นสันเป็นสิ่งคุกคามที่จะบ่อนทำลายพรรคอนุรักษนิยมและรัฐบาลอังกฤษ เมื่อถึงจุดหนึ่งเราต้องบอกว่าพอแล้ว และเขาเชื่อว่าจุดนั้นคือขณะนี้
อย่างไรก็ดี จอห์นสันยังคงอ้างว่า พูดกันจริงๆ แล้วงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก สิ่งที่เขาต้องทำเมื่อได้รับมอบอำนาจมาแล้วคือการไปต่อ และนั่นคือสิ่งที่เขาจะทำ
