หนีสำเร็จ! ปธน.ศรีลังกาขึ้นเครื่องบินทหารไปมัลดีฟส์
ประธานาธิบดี โคฐานภยะ ราชปักษะ ของศรีลังกา เดินทางออกนอกประเทศแล้ว โดยมีรายงานว่าเขาใช้เครื่องบินทหารเดินทางออกจากศรีลังกา และเครื่องบินได้ลงจอดที่กรุงมาเล เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์ เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น
ราชปักษะอยู่ระหว่างการหลบซ่อนตัวนับตั้งแต่ฝูงชนได้บุกเข้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงานว่าความพยายามที่จะหลบหนีออกนอกประเทศโดยเครื่องบินพาณิชย์ของเขาก่อนหน้านี้ต้องประสบความล้มเหลว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่ให้ความร่วมมือในการแสตมป์พาสปอร์ตขาออก
กระทั่งมีรายงานว่าเขาเดินทางออกนอกประเทศโดยเครื่องบินทหารในที่สุด ถือเป็นการสิ้นสุดยุคแห่งการปกครองศรีลังกาของตระกูลราชปักษะที่ยาวนานหลายสิบปีในศรีลังกา
การเดินทางออกจากศรีลังกาของประธานาธิบดีราชปักษะถือว่าเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที เนื่องจากเขาประกาศที่จะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดยในฐานะผู้นำประเทศเขามีเอกสิทธิ์คุ้มกันไม่ให้ถูกดำเนินคดี จึงเชื่อว่านี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเร่งหาทางหลบหนีออกจากศรีลังกาก่อนหน้าที่จะพ้นจากตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะถูกรัฐบาลใหม่ของศรีลังกาสั่งจับในฐานะต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศศรีลังกาล่มสลาย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าน้องชายคนเล็กของประธานาธิบดีราชปักษะคือ นายเบซิล ราชปักษะ อดีตรัฐมนตรีคลังที่ได้ลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถูกสกัดไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศที่สนามบินนานาชาติในกรุงโคลอมโบวานนี้ ก็สามารถเดินทางออกจากศรีลังกาแล้วเช่นกัน โดยมีรายงานว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปยังสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเขาเป็นบุคคลที่ถือสองสัญชาติคือศรีลังกาและสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การหลบหนีออกนอกประเทศของประธานาธิบดีราชปักษะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองขึ้นในศรีลังกา ซึ่งยังคงจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่ปฏิบัติงานต่อไปได้เพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุด แม้ประธานรัฐสภาศรีลังกาจะประกาศก่อนหน้านี้ว่า ที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ก็ตาม
ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติชุดใหม่ของศรีลังกาก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด เนื่องจากยังคงไม่มีสัญญาณจากพรรคการเมืองว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงใดๆ และยังไม่มีความชัดเจนว่าสาธารณชนจะให้การยอมรับกับตัวเลือกของรัฐบาลใหม่ที่กำลังมีความพยายามจะจัดตั้งขึ้นด้วยหรือไม่
