ศาลสั่งผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ชดใช้ค่าเสียหายเกือบ 3.5 ล้านล้านบาท
ศาลญี่ปุ่นมีคำสั่งให้อดีตผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะจ่ายเงิน 13 ล้านล้านเยน หรือราว 3,492,000 ล้านล้านบาท เนื่องจากล้มเหลวในการป้องกันภัยพิบัติ ทั้งนี้ ผู้บริหารเทปโก้ถูกฟ้องโดยผู้ถือหุ้นต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเนื่องจากสึนามิในปี 2554
ศาลพิพากษาว่า ผู้บริหารเทปโก้สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามมาได้ หากพวกเขาดำเนินการโดยใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสม โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีภาระหน้าที่ในการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมของผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหารไม่ปฏิบัติตามคำเตือนที่น่าเชื่อถือ
ขณะที่บริษัทเทปโก้ได้ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ ต่อคำตัดสินของศาล โดยแถลงการณ์ของเทปโก้ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งสำหรับภาระอันใหญ่หลวง และห่วงกังวลอย่างสุดซึ้งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ของบริษัท ที่ส่งผลกระทบกับคนท้องถิ่นและสังคมโดยรวม
ทนายความของผู้ยื่นฟ้องเชื่อว่า เงินชดเชยตามคำสั่งศาลดังกล่าวน่าจะเป็นเงินชดเชยในคดีแพ่งที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของญี่ปุ่น และตระหนักดีว่าเงินชดเชยจำนวน 13 ล้านล้านเยนนั้น มากกว่าที่ผู้บริหารบริษัทจะจ่ายได้ แต่โจทก์ก็หวังว่าจะได้รับเงินจากจำเลยเท่าที่ทรัพย์สินของเขาจะเอื้ออำนวยให้จ่าย
ก่อนหน้านี้ ศาลแขวงโตเกียวพิพากษาว่า ผู้บริหารเทปโก้ 3 คน ไม่มีความผิดฐานประมาทเลินเล่อในการพิจารณาคดีอาญาต่อพวกเขาในปี 2019 เนื่องจากศาลเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถคาดการณ์การเกิดสึนามิได้ แต่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ และคาดว่าศาลสูงของโตเกียวจะพิจารณาคดีดังกล่าวในปีหน้า
