ปธน.ราชปักษะบินไปสิงคโปร์ ผู้ประท้วงยันสู้ต่อ แม้ยอมถอนกำลังพ้นสถานที่ราชการ 

REUTERS

ปธน.ราชปักษะบินไปสิงคโปร์ ผู้ประท้วงยันสู้ต่อ แม้ยอมถอนกำลังพ้นสถานที่ราชการ

สถานการณ์ความวุ่นวายในศรีลังกายังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงในเร็ววัน ล่าสุด พระผู้ใหญ่ต้องกลายมาเป็นคนเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ประชาชนคืนอาคารที่ทำการของรัฐให้กับทางการ หลังผู้ประท้วงชาวศรีลังกาได้บุกเข้าไปยึดอาคารสำคัญทั้งทำเนียบประธานาธิบดีที่มีอายุกว่า 200 ปี และสำนักงานของนายกรัฐมนตรีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

พระโอมัลเป โสภิธา เถระ เป็นหนึ่งในแกนนำที่สนับสนุนการรณรงค์เรียกร้องให้มีการส่งมอบทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกาคืนให้กับทางการ โดยกล่าวว่า ทำเนียบประธานาธิบดีถือเป็นสมบัติของชาติ และควรได้รับการปกป้อง ต้องมีการตรวจสอบอย่างเหมาะสม และคืนอาคารดังกล่าวให้กับรัฐ

ด้านนักเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการล้มรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโคฐานภยะ ราชปักษะ ภายใต้แคมเปญ #GotaGoHome บอกว่า กำลังมีการดำเนินการเพื่อส่งมอบอาคารต่างๆ คืนให้กับทางการ

ล่าสุด กลุ่มผู้ประท้วงได้ประกาศจะถอนกำลังออกจากทำเนียบประธานาธิบดีและสำนักงานของนายกรัฐมนตรีศรีลังกาโดยสันติทันที แต่ย้ำว่าการต่อสู้ของพวกเขายังจะดำเนินต่อไป

Advertisement

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ประธานาธิบดีราชปักษะซึ่งบินออกจากศรีลังกาไปยังมัลดีฟส์ ได้เดินทางไปสิงคโปร์ด้วยเครื่องบินของสายการบินซาอุเดียของซาอุดีอาระเบีย และเขาตั้งใจจะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดินทางไปถึงสิงคโปร์แล้ว โดยเขาน่าจะพำนักอยู่ในสิงคโปร์สักพักหนึ่ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าหลังจากไปถึงสิงคโปร์แล้วเขาจะเดินทางไปยังประเทศใดต่อไป โดยมีรายงานว่าเขาตั้งใจที่จะเดินทางต่อไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อย่างไรก็ดี แม้จะหลบหนีออกมาจากศรีลังกาแล้ว แต่ประธานาธิบดีราชปักษะก็เผชิญกับการประท้วงในมัลดีฟส์เช่นกัน โดยมีรายงานว่าชาวต่างชาติและชาวศรีลังกาหลายสิบคนพากันออกมาประท้วงต่อต้านไม่ให้รัฐบาลมัลดีฟส์ให้สถานที่หลบซ่อนตัวสำหรับราชปักษะ โดยภาพวิดีโอจากสื่อท้องถิ่นแสดงให้เห็นว่ามีชาวมาเลตะโกนด่าทอราชปักษะ ขณะที่เขาเดินออกมาจากสนามบินนานาชาติของมัลดีฟส์ หลังเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินทหาร

รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีราชปักษะพยายามขอวีซ่าไปสหรัฐ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะเขาได้สละสัญชาติสหรัฐไปในปี 2019 ก่อนที่จะลงสมัครรับตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกา

Advertisement

สถานการณ์การประท้วงในศรีลังกาอยู่ในความสงบในวันที่ 14 กรกฎาคม ขณะที่ชาวศรีลังกากำลังรอคำประกาศลาออกอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีราชปักษะ มีรายงานว่า การบุกเข้าไปในอาคารสำนักงานของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ซึ่งมีเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและมีการใช้แก๊สน้ำตาและปืนใหญ่ฉีดน้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 84 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image