ปูตินเยือนอิหร่าน ทริปแรกหลังสงครามยูเครน กร้าว ต.ต.ไม่อาจโดดเดี่ยวรัสเซีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางเยือนกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ เพื่อพบปะหารือกับนายอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของประเทศอิหร่าน นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศนอกอดีตสหภาพโซเวียตครั้งแรกหลังการส่งกองกำลังบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ปูตินได้กล่าวหาชาติตะวันตกว่าพยายามที่จะทำลายเศรษฐกิจรัสเซียด้วยการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งถือเป็นการประกาศสงครามทางเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้รัสเซียหันหลังให้กับตะวันตก และจะมุ่งไปให้ความสำคัญกับจีน อินเดีย และอิหร่านแทน
ปูตินย้ำว่า ตะวันตกไม่สามารถที่จะโดดเดี่ยวรัสเซียออกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลกได้ และการคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตกจะไม่ทำให้รัสเซียย้อนเวลาในการพัฒนาประเทศกลับไปสู่สถานะในอดีต เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การสร้างข้อจำกัด แต่ยังเป็นการตั้งใจปิดกั้นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ไฮเทคทั้งหมดกับรัสเซีย
“ชัดเจนว่านี่เป็นความท้าทายใหญ่สำหรับประเทศของเรา แต่เราจะไม่ยอมแพ้ และอยู่ในสภาวะแห่งความยุ่งเหยิงอลหม่าน คือเป็นไปตามคำทำนายที่พวกปรารถนาดีบางคนคาด ว่าเราจะย้อนกลับไปสู่ยุคหลายสิบปี สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”ปูตินกล่าว และว่า รัสเซียจะพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีและเทคโนโลยีในประเทศของตนเองต่อไป
ส่วนการเยือนอิหร่านนั้น นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของปูตินระบุว่า การพบกับนายคาเมนีมีความสำคัญอย่างยิ่ง การหารือด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างทั้งคู่ได้พัฒนาขึ้นในประเด็นสำคัญๆ มากมาย ทั้งที่เป็นประเด็นทวิภาคีและประเทศระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่จุดยืนของเราใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงกัน
ในระหว่างที่ปูตินเยือนกรุงเตหะราน ประธานาธิบดีเรเจป เตยิป แอร์โดอาน ของตุรกี ยังจะเดินทางมาพบกับปูติน เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงเพื่อปูทางไปสู่การฟื้นช่องทางสำหรับการส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำของยูเครนด้วย