ญี่ปุ่นประหารมือมีด ไล่แทงคนดับ 7 ศพ ย่านดังโตเกียว

แฟ้มภาพเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่ฟันผูัคนในย่านอากิฮาบารา ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนปี 2008 (เอเอฟพี)

ญี่ปุ่นประหารมือมีด ไล่แทงคนดับ 7 ศพ ย่านดังโตเกียว

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ว่ากระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นแถลงว่าได้ประหารชีวิตนายโทโมฮิโระ คาโตะ ผู้ก่อเหตุใช้มีดไล่แทงผู้คนไม่เลือกหน้าในย่านอากิฮาบารา ซึ่งเป็นแหล่งขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนปี 2008 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คนแล้ว

นายโยชิฮิสะ ฟุรุคาวา รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นายคาโตะได้เตรียมการอย่างถี่ถ้วนสำหรับการโจมตีและแสดงเจตนาอย่างแข็งกร้าวที่จะสังหารผู้คน และว่า โทษประหารชีวิตในคดีนี้เป็นอันสิ้นสุดผ่านการพิจารณาอย่างเพียงพอในชั้นศาล จากข้อเท็จจริงนี้ตนจึงได้อนุมัติโทษประหารชีวิตหลังจากพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน

แฟ้มภาพนายโทโมฮิโระ คาโตะ ผู้ก่อเหตุ (เอเอฟพี)

ข่าวระบุว่า หลังจากถูกจับกุมตัวได้หลังการก่อเหตุ ที่นายคาโตะได้ขับรถบรรทุกน้ำหนัก 2 ตันที่เช่ามาพุ่งเข้าใส่ฝูงชน ก่อนที่นายคาโตะจะลงจากรถมาแล้วใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาไล่แทงผู้คน นายคาโตะได้ให้การกับตำรวจว่าเขามาที่ย่านอากิฮาบาราเพื่อฆ่าคน ซึ่งไม่สำคัญว่าคนที่เขาจะฆ่านั้นเป็นใคร

ตำรวจระบุว่า นายคาโตะได้บันทึกการเดินทางไปยังย่านอากิฮาบาราบนกระดานข่าวทางอินเตอร์เน็ต พิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือจากบนรถบรรทุกและพร่ำพรรณนาถึงการมีงานที่ไม่มั่นคงและความเหงาของตนเอง

Advertisement

ทั้งนี้ นายคาโตะเป็นลูกชายของนายธนาคาร เติบโตในจังหวัดอาโอโมริ ทางตอนเหนือของประเทศ และจบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย

อัยการชี้ว่าความมั่นใจของนายคาโตะลดลงหลังจากผู้หญิงที่เขาคุยด้วยในโลกออนไลน์ได้หยุดส่งอีเมล์ถึงเขา หลังจากเขาส่งรูปถ่ายของตนเองให้เธอ อัยการระบุอีกว่า ความโกรธของนายคาโตะต่อสาธารณชนเพิ่มขึ้นเมื่อการแสดงความคิดเห็นบนกระดานข่าวทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงแผนที่จะไล่ฆ่าผู้คนนั้นไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ

อย่างไรก็ดี ในระหว่างการรอพิจารณาคดี นายคาโตะได้เขียนจดหมายถึงคนขับรถแท็กซี่วัย 56 ปีรายหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เพื่อแสดงความสำนึกผิด และในศาลนายคาโตะยังได้แสดงความสำนึกผิดต่อเหตุโจมตีที่ตนเองก่อขึ้นด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image