หวั่นศก.สหรัฐถดถอย! เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% คุมเงินเฟ้อ

หวั่นศก.สหรัฐถดถอย! เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% คุมเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอีกครั้งที่ 0.75% ในวันที่ 27 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุด ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยหลักอยู่ที่ระดับ 2.25% -2.5% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561

การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในท้ายที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจต้องรับมือทั้งกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นตามมา

นายโรเบอร์โต เพอร์รี นักเศรษฐศาสตร์จาก Piper Sandler ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจ กล่าวว่า นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้เน้นย้ำว่า แม้ว่าอาจทำให้เกิดภาวะถดถอย แต่การควบคุมอัตราเงินเฟ้อก็เป็นสิ่งสำคัญ

นายพาวเวลล์แถลงข่าวหลังการประชุมระดับนโยบายครั้งล่าสุดของเฟดโดยเน้นว่า ธนาคารกลางยังคงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอัตราเงินเฟ้อสูงเรื้อรัง พร้อมระบุว่าอาจมีการชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะเชื่อว่าระดับอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ น่าจะอยู่ในระดับที่ทั้งไม่สนับสนุนหรือจำกัดการเติบโต

Advertisement

อย่างไรก็ดีพาวเวลล์ยังคงระมัดระวังที่จะไม่ตัดโอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการหารือด้านนโยบายครั้งต่อไปของเฟดในเดือนกันยายน โดยระบุว่าการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่ขึ้นกับรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะปรากฏออกมาระหว่างนี้และหลังจากนั้น

“ผมไม่คิดว่าสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะถดถอย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะประสบความสำเร็จในการช่วยชะลอและบรรเทาแรงกดดันจากเงินเฟ้อ”พาวเวลล์กล่าว

พาวเวลล์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ความต้องการแรงงานผ่อนคลายลงพอประมาณ และการเติบโตของค่าจ้างอาจจะแตะระดับสูงสุดแล้ว แนวโน้มของเศรษฐกิจกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่จะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อได้ และคาดว่าในเวลาต่อไปอัตราเงินเฟ้อจะลดกลับลงไปอยู่ที่เป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในนโยบายที่เฟดได้ดำเนินการไป

Advertisement

การประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีขึ้นหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงขึ้นแต่ 9.1% ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 41 ปี ทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงความพยายามอย่างจริงจังในการชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินเฟ้อและความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่ได้บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและสร้างความวิตกกังวลในหมู่สาธารณชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งกลางเทอมเรียนพฤศจิกายนนี้ ที่มีโอกาสที่พรรคเดโมแครตจะสูญเสียการควบคุมในสภาล่างและสภาสูง เนื่องจากขณะนี้ความนิยมที่มีต่อนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ของชาวอเมริกันได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image