จับตา ‘ไบเดน-สี’ หารือ 28 ก.ค. ท่ามกลางข่าว ปธ.สภามะกันจ่อเยือนไต้หวัน

จับตา ‘ไบเดน-สี’ หารือ 28 ก.ค. ท่ามกลางข่าว ปธ.สภามะกันจ่อเยือนไต้หวัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา มีกำหนดที่จะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ตามเวลาในสหรัฐ นับเป็นการหารือของสองผู้นำครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดคุยกันในประเด็นหลากหลาย ตั้งแต่ประเด็นทวิภาคีไปจนถึงประเด็นระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐ เป็นเรื่องที่อาจจะส่งผลกระทบหารือ หรือมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุย เนื่องจากจีนได้ออกมาเตือนว่าจะตอบโต้อย่างรุนแรงหากเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายจ้าว ลี่เจียง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการหารือทางโทรศัพท์ของประธานาธิบดีทั้งสอง แต่เขาได้เน้นย้ำคำเตือนของจีนเกี่ยวกับการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี

นายจ้าวกล่าวว่า หากสหรัฐยืนกรานที่จะเดินหน้าไปตามทิศทางของตนเอง และท้าทายขีดจำกัดของจีน เชื่อได้เลยว่าจะต้องเจอกับการตอบโต้อย่างรุนแรง และผลกระทบที่ตามมาทั้งหมดเป็นภาระที่สหรัฐต้องรับผิดชอบ

Advertisement

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้สำนักงานของประธานรัฐสภาสหรัฐยังไม่ได้แจ้งชัดเจนว่า นางเพโลซีจะเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อใด แต่ช่วงเวลาของการเยือนก็มีความสำคัญเป็นพิเศษ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งในประเด็นเรื่องการค้า สิทธิมนุษยชน และเรื่องไต้หวัน

แม้ว่าสหรัฐจะได้ส่งรัฐมนตรีและอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปยังไต้หวันอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่สถานะของนางเพโลซีซึ่งถือว่ามีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากประธานาธิบดี ทำให้จีนมีปฏิกิริยาต่อความเป็นไปได้ในการเยือนไต้หวันของเธอแตกต่างออกไป

เมื่อสัปดาห์ก่อนไบเดนได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กองทัพสหรัฐเชื่อว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีสำหรับประธานรัฐสภาสหรัฐที่จะไปเยือนไต้หวันในขณะนี้ โดยไฟแนนซ์เชียลไทม์สรายงานก่อนหน้านี้ว่า นางเพโลซีมีแผนจะเยือนไต้หวันในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนตามแผนที่ได้วางไว้ในเดือนเมษายน แต่ถูกเลื่อนออกไปหลังจากที่เธอตรวจพบผลโควิด-19 เป็นบวก

แม้ว่าจีนจะไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างไร แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จีนสามารถเพิ่มการโจมตีในน่านน้ำและน่านฟ้าใกล้ไต้หวัน หรือแม้กระทั่งข้ามเส้นกึ่งกลางที่แบ่งช่องแคบไต้หวันออกเป็นสองส่วน ขณะที่บางคนคาดว่าจีนอาจจะพยายามป้องกันไม่ให้เครื่องบินของเพโลซีลงจอด ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่จุดชนวนให้เกิดวิกฤตครั้งใหญ่ แม้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก็ตาม

ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐได้บอกกับสำนักข่าวเอพีว่า หากเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวันจริง กองทัพสหรัฐจะมีการเพิ่มการเคลื่อนย้ายกองกำลังในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเกิดขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image