สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนศาลแขวงกลางเขตกรุงโซล เกาหลีใต้ แถลงว่า ได้อนุมัติการออกหมายจับอดีตคนสนิทของประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ผู้นำเกาหลีใต้ 2 ราย ซึ่งทั้งสองถูกควบคุมตัวและถูกสอบสวนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการใช้อิทธิพลในทางมิชอบและใช้ความสนิทสนมแทรกแซงกิจการรัฐบาลของ นาง ชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดี ตามคำขอของพนักงานอัยการ กรณีอื้อฉาวดังกล่าวนี้ส่งผลให้รัฐบาลประธานาธิบดีปาร์คเสื่อมความนิยมลงอย่างรวดเร็ว คะแนนนิยมในตัวผู้นำสตรีคนแรกของเกาหลีใต้ลดลงเหลือเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สำนักสำรวจความคิดเห็น กัลลัพ โคเรีย เคยจัดทำซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2531 เรื่อยมาจนถึงขณะนี้ และเป็นที่มาของการชุมนุมใหญ่ของชาวเกาหลีใต้เป็นเรือนแสนใจกลางกรุงโซลเพื่อขับไล่รัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
คนสนิทของน.ส.ปาร์ค ที่ถูกออกหมายจับตามคำขอของพนักงานอัยการ คือนาย อาห์น ชุง-บุม อดีตที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายประสานงานนโยบายประจำตัวประธานาธิบดี โดยนายอาห์น ถูกตั้งข้อหาหลายข้อหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบและดำเนินความพยายามอันเข้าข่ายเป็นการกรรโชกทรัพย์ โดยพนักงานอัยการอ้างว่ามีผู้กล่าวหาว่านายอาห์นกับนางชเว สมคบกันใช้อิทธิพลบีบบังคับให้บรรษัทขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้บริจาคเงินให้มูลนิธิไม่แสวงผลกำไรต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนางชเว อดีตที่ปรึกษาอีกรายที่ถูกออกหมายจับกุมในคราวเดียวกันนี้ก็คือ นายจุง โฮ-ซุง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เปิดเผยความลับของทางการต่อบุคคลภายนอก ทั้ง 2 คนอยู่ระหว่างการควบคุมตัวชั่วคราวตามคำสั่งควบคุมตัวฉุกเฉินก่อนหน้านี้ และลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาแล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาเมื่อวิกฤตการณ์ครั้งนี้เริ่มลุกลาม
นอกเหนือจากการจับกุมคนทั้งสองแล้ว ทางอัยการยังออกหมายเรียกตัวนาย วู เบียง-วู อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีฝ่ายกิจการพลเรือน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่หลังจากล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้นางชเว ใช้อิทธิพลเข้าไปแทรกแซงกิจการของรัฐ นอกจากนั้นนายวู ยังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายคอร์รัปชั่นในอีกคดีหนึ่งซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่เชื่อมโยงไปถึงหลายคนในครอบครัวของนายวูเอง
