‘นาจิบ ราซัก’ ดิ้นสู้เฮือกสุดท้าย หวังรอดคดีทุจริตกองทุน 1MDB
นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เริ่มต้นความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อระงับการตัดสินโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชั่นที่เชื่อมโยงกับกองทุน 1เอ็มดีบี อันอื้อฉาวมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่ง
ศาลสูงสุดของมาเลเซียได้กำหนดที่จะไต่สวนในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ เพื่อรับฟังคำอุทธรณ์ของนาจิบในคดีความผิดทางอาญาที่เขาได้ละเมิดความไว้วางใจ ใช้อำนาจในทางที่ผิด และฟอกเงิน ภายใต้ข้อหาว่าเขาได้ขโมยเงินออกไปจากกองทุนดังกล่าว ซึ่งก่อตั้งขึ้นขณะที่นาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2552
อัยการระบุว่า เงินจากกองทุน 1เอ็มดีบีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ถูกถ่ายโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ โดยเขาถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และปรับเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ จากการรับเงินผิดกฎหมายราว 10 ล้านดอลลาร์จากเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหน่วยงานเดิมของกองทุน 1เอ็มดีบี ในเดือนกรกฎาคม 2563 ในการพิจารณาคดีความผิดแรก
นอกจากการยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าวแล้ว ในเอกสารที่มีการยื่นของการพิจารณาคดีในวันที่ 15 สิงหาคม นาจิบยังได้ขอให้ศาลรัฐบาลกลางพิจารณาหลักฐานใหม่เพื่อทำให้การพิจารณาคดีเป็นโมฆะ โดยกล่าวหาผู้พิพากษาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน
การยื่นอุทธรณ์ของนาจิบมีขึ้นก่อนหน้าการเลือกตั้งระดับชาติซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีขึ้นก่อนกำหนดในเดือนกันยายนปีหน้า เพราะหากเขาพ้นผิดก็อาจทำให้สามารถฟื้นคืนชีพในเวทีการเมืองได้อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าขณะนี้นาจิบจะยังคงเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ แต่เขาถูกห้ามไม่ให้ลงชิงตำแหน่งใหม่ เว้นแต่ว่าจะมีการยกเลิกคำพิพากษาหรือได้รับอภัยโทษ
