ศรีลังกาจ่อยกเลิก ‘ภาวะฉุกเฉิน’ หลังเหตุความไม่สงบดีขึ้น
นายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกา ประกาศเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ว่า ประเทศไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขยายการบังคับใช้ “ภาวะฉุกเฉิน” ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 18 สิงหาคมที่จะถึงนี้ต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ นายรานิลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นในประเทศ ซึ่งมีขึ้น 4 วันหลังจากที่นายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา หลบหนีออกนอกประเทศ และลาออกจากตำแหน่งไป เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนจำนวนมากที่โกรธแค้นรัฐบาลจากปัญหาขาดแคลนอาหาร พลังงาน และยา ได้ออกมาก่อการจลาจลและขับไล่รัฐบาลเป็นเวลายาวนานหลายเดือน โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการให้อำนาจทหารและตำรวจในการปราบปรามและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้เป็นเวลานาน ทำให้กลุ่มเสรีนิยมฝ่ายขวาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการให้อำนาจทางกฎหมายต่อประธานาธิบดีและเป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชน
ทั้งนี้ สถานการณ์ของศรีลังกายังไม่สู้ดีนัก เนื่องจากประชาชนกว่า 22 ล้านคน กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากจากการขาดแคลนปัจจัย 4 ขั้นรุนแรงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศประสบปัญหาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงจนไม่สามารถหนุนการนำเข้าสิ่งจำเป็นได้ ประกอบกับมีภาระหนี้ต่างประเทศมูลค่ามหาศาลกว่า 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,785,000 ล้านบาท) เมื่อกลางเดือนเมษายน ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคด้านภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยมีอัตราโดยรวมอยู่ที่ 60.8% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารอยู่ที่ 90.9% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
