คอลัมน์ Think Tank: ลงคะแนนล่วงหน้า ตัวแปรสำคัญเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

AFP PHOTO / JEWEL SAMAD AND JEFF KOWALSKY

บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลคาตาลิสต์ระบุว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงล่วงหน้าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแล้ว 27 ล้านคน นับจนถึงเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มากกว่าช่วงเดียวกันของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งที่แล้ว 6.7 ล้านคน

ข้อมูลบ่งชี้ให้เห็นว่า มีสมาชิกพรรคเดโมแครตออกมาลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่าฝั่งรีพับลิกันในหลายๆ รัฐ ที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นข้อได้เปรียบของฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ที่มีเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันคู่แข่ง ในช่วงสุดท้ายของการชิงชัยสู่ทำเนียบขาวที่คู่คี่สูสี

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิล่วงหน้าที่เป็นคนหนุ่มสาว และชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันในครั้งนี้น้อยมาก โดยคน 2 กลุ่มนี้เป็นฐานเสียงสำคัญที่ทำให้บารัค โอบามา ครองเก้าอี้ในทำเนียบขาวได้สำเร็จเมื่อปี 2008

เรื่องดังกล่าวอาจยกเว้นในชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศที่ถือเป็น “บ้าน” ของโอบามา ซึ่งมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในระดับที่อาจเทียบเท่าหรือแซงหน้าตัวเลขเมื่อปี 2012 เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองนี้มีความคิดว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องผลักดันในสิ่งที่โอบามาได้เริ่มต้นไว้”

Advertisement

อารมณ์ความรู้สึกดังกล่าวอาจส่งผลดีต่อฮิลลารีที่วางตัวเองเป็นทายาทผู้ซื่อสัตย์ของโอบามา และเป็นผู้ปกป้องมรดกตกทอดของเขา

ฮิลลารีเป็นคู่แข่งของโอบามาในการเลือกตั้งขั้นต้นชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตอันขมขื่นเมื่อปี 2008 แต่ภายหลังได้รับหน้าที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในฝ่ายบริหารของโอบามา และถึงตอนนี้เธอตั้งเป้าว่าจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐ

แต่ทั้งเธอและทรัมป์ต่างไม่เป็นที่นิยมเอามากๆ โดยมีคะแนนสนับสนุนต่ำกว่าปกติ อ้างอิงจากโพลสำรวจเฉลี่ยจากหลายๆ สำนักของเรียลเคลียร์โพลิติกส์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ฮิลลารีมีคะแนนนิยม 46.6 เปอร์เซ็นต์ขณะที่ทรัมป์ อยู่ที่ 44.8 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

มีสัญญาณอีกอย่างที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงของทรัมป์ นั่นคือความกระตือรือร้นในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าของชาวอเมริกันเชื้อสายละตินหรือฮิสปานิก ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนฮิลลารีอย่างท่วมท้น ทำให้ฮิลลารีมีคะแนนในการเลือกตั้งล่วงหน้านำอยู่ในรัฐที่ไม่มีแนวโน้มว่าสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างชัดเจนหรือ “สะวิงสเตท” หลายแห่ง ทั้งเนวาดา จอร์เจีย และโคโลราโด

ที่หมายความว่า ทรัมป์จำเป็นต้องชนะในรัฐสะวิงสเตทที่เป็นสมรภูมิสำคัญแทบทุกรัฐที่เหลือ ขณะเดียวกัน ยังจำเป็นต้องรักษาคะแนนเสียงของตนเองใน “รัฐสีแดง” ที่มีความเป็นรีพับลิกันอย่างแข็งแกร่งอย่างเช่นเท็กซัสไว้ให้ได้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image