ADB ชี้โควิดทำการต่อสู้ความยากจนในเอเชีย-แปซิฟิกถดถอย 2 ปี
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความก้าวหน้าในการต่อสู้กับความยากจนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ต้องถอยหลังลงไปถึง 2 ปี โดยหลายประเทศพบว่าความพยายามที่จะก้าวให้พ้นจากความยากจนเป็นเรื่องยากลำบากมากยิ่งขึ้น
เอดีบีระบุว่า หากการแพร่ระบาดใหญ่ไม่เกิดขึ้น จำนวนของผู้คนที่จะเผชิญกับความยากจนขั้นรุนแรงในภูมิภาค ซึ่งหมายถึงผู้มีรายได้น้อยกว่า 1.90 ดอลลาร์ต่อวัน อาจลดลงเหลือ 2.9% ในปี 2563 แทนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5% ขณะที่ตัวเลขคนยากจนในปี 2564 อยู่ที่ 3.8% และคาดว่าจะอยู่ที่ 3% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี เอดีบีคาดการณ์ว่า ผู้ที่อยู่ในสถานะยากจนขั้นรุนแรงจะลดต่ำกว่า 1% ของประชากรทั้งหมดในเอเชีย-แปซิฟิก ภายในปี 2573
เอดีบีระบุด้วยว่า ประชากรของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียอย่างน้อย 20% อยู่ในสถานะยากจนมากหรือยากจนปานกลางในปี 2564 ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวอาจลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นตัว นวัตกรรม และการเปิดกว้างเพื่อให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่สมดุลและการเคลื่อนย้ายทางสังคมที่มากขึ้น
อัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าวว่า คนยากจนและคนเปราะบางเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากที่สุด และในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หลายคนอาจพบว่าความพยายามที่จะหาทางหลุดพ้นจากความยากจนนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่าเดิม
