เลขายูเอ็นวอนเมียนมา รวมประเด็น ‘โรฮีนจา’ ในทางออกวิกฤตชาติ
นายอันโตนิอู กุแตเรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมานำประเด็นเรื่องชาวโรฮีนจาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการเมืองของประเทศเมียนมาด้วย
กุแตเรสแสดงความเห็นดังกล่าวในวันครบรอบ 5 ปีของการอพยพมวลชนชาวโรฮีนจาครั้งใหญ่ออกจากเมียนมาไปยังบังกลาเทศ เพื่อหนีการปราบปรามของทหารในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของเมียนมา พร้อมเน้นย้ำว่า การมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และมีผลของชาวโรฮีนจาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาวิกฤตที่นำโดยเมียนมาเอง
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตในเมียนมาอย่างครอบคลุม คงทน และด้วยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย”กุแตร์เรสกล่าว
นายสเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกยูเอ็น ได้เน้นย้ำถึงความปรารถนาอันแน่วแน่เพื่ออนาคตที่รวมชาวโรฮีนจาที่เผชิญการเลือกปฏิบัติอย่างกว้างขวางในเมียนมา รวมถึงการถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมืองและสิทธิอื่นๆ อีกมาก
ดูฌาร์ริกกล่าวว่า ผู้กระทำผิดในคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในเมียนมต้องรับโทษ และความยุติธรรมสำหรับเหยื่อจะนำไปสู่อนาคตทางการเมืองของเมียนมาที่มีความยั่งยืนและครอบคลุมสำหรับประเทศและประชาชนเมียนมาทั้งมวล
อย่างไรก็ดี ดูฌาร์ริกรับความจริงที่ว่า ไม่มีโอกาสที่ชาวโรฮีนจาจะกลับเมียนมาในทันที พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ายังคงมีชาวโรฮีนจามากกว่า 1.5 แสนคนที่ถูกคุมขังอยู่ในค่ายที่รัฐยะไข่ และว่าหลังการปฏิวัติในเมียนมา สถานการณ์ด้านมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และความมั่นคงในเมียนมาเสื่อมโทรมลง แต่การเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาของยูเอ็นรวมถึงพันธมิตรในพื้นที่เหล่านั้นยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น
