ฝรั่งเศสฟ้องอียู อังกฤษปล่อยน้ำเสียลงทะเล หวั่นกระทบสุขภาพ-สัตว์น้ำ
สมาชิกรัฐสภายุโรปจากฝรั่งเศส 3 คนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรปว่า อังกฤษได้ปล่อยน้ำเสียที่ยังไม่ผ่านการบำบัดลงสู่ทะเลเหนือและช่องแคบอังกฤษ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของผู้คน รวมถึงสิ่งมีชีวิตในทะเลตามแนวชายฝั่งของฝรั่งเศส และคุกคามความหลากหลายทางชีวิตภาพในสหภาพยุโรป (อียู) ด้วย
สเตฟานี ยอน-คูร์ดิน สมาชิกคณะกรรมการประมงของรัฐสภายุโรป ระบุว่า ช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือไม่ใช่พื้นที่ทิ้งขยะ เราไม่อาจทนรับสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชาวประมงของเรา รวมถึงปล่อยให้สุขภาพของประชาชนตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง จากความประมาทของอังกฤษเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สมาชิกรัฐสภายุโรปได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการใช้วิธีการทางการเมืองและกฎหมายทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา และกล่าวหาว่าอังกฤษละเมิดข้อตกลงการค้าหลังการเบร็กซิทกับอียู เพราะแม้ว่าอังกฤษจะไม่ยึดมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของอียูอีกแล้ว แต่ก็ยังลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางทะเล และมีความรับผิดชอบที่ต้องปกป้องน้ำทะเลที่มีการใช้งานร่วมกัน
ด้านนายสตีฟ ดับเบิล รัฐมนตรีน้ำของอังกฤษ ออกมาปฏิเสธคำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว และว่าอังกฤษได้สร้างกฎระเบียบเกี่ยวกับคุณภาพน้ำหลังเบร็กซิท พร้อมตำหนิความเห็นที่ไร้ประโยชน์และไม่มีข้อมูลที่เบี่ยงเบียนความสนใจไปจากงานที่รัฐบาลได้ทำเพื่อปกป้องแม่น้ำและทะเลของเรา ซึ่งได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้บริษัทน้ำลดความถี่และปริมาณการปล่อยน้ำเสียแล้ว
ก่อนหน้านี้อังกฤษได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับมลพิษที่ชายหาดเกือบ 50 แห่งในอังกฤษและเวลส์ หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งจัดหลายสัปดาห์ ทำให้เกิดน้ำท่วมระบบบำบัดน้ำเสียบางส่วนของอังกฤษเมื่อสัปดาห์ก่อน จนต้องมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำและทะเลตามมา
แม้บริษัทในอังกฤษจะถูกห้ามไม่ให้ปล่อยน้ำเสียที่ยังไม่ผ่านการบำบัดในสถานการณ์ปกติ แต่บริษัทเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้ปล่อยน้ำเสียได้เมื่อเกิดฝนตกหนักซึ่งส่งผลกระทบกับโรงงานบำบัดน้ำเสีย ทำให้นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวหาว่า บางบริษัทใช้ประโยชน์จากข้อยกเว้นดังกล่าวเพื่อลดต้นทุน และยังพยายามหลีกเลี่ยงการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น