แพทย์ฝรั่งเศสเล่า ‘ช่วงเวลาสุดท้าย’ ของเจ้าหญิงไดอานา หลังขับรถผ่านไปเจอ แล้วพยายามช่วยชีวิตเจ้าหญิงไดฯ
ในโอกาสใกล้ครบรอบ 25 ปีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา อดีตพระชายาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งอังกฤษ และพระมารดาของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เอพีมีบทสัมภาษณ์ เฟรเดอริค เมลลิเยซ์ แพทย์ชาวฝรั่งเศส ที่บังเอิญขับรถผ่านไปบริเวณอุโมงค์ลอดสะพานปองต์เดอลัลมา กรุงปารีส ในคืนที่เจ้าหญิงไดอานาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังถูกปาปาราซซีขับรถตามไล่ล่าถ่ายรูป และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2540
หมอเมลลิเยซ์เล่าว่า คืนนั้น เขากำลังขับรถกลับบ้าน หลังเลิกปาร์ตี้กับเพื่อนๆ แล้วผ่านไปเห็นรถเมอร์เซเดส เบนซ์ในสภาพพังยับ แทบจะขาดเป็น 2 ท่อน มีผู้หญิงคนหนึ่งหมดสติอยู่บนพื้นรถ หายใจติดขัด แต่หมอเมลลิเยซ์ไม่รู้เลยว่า ผู้หญิงคนนั้นคือเจ้าหญิงไดอานา รู้แต่ว่าต้องพยายามช่วยชีวิตเธอ
“เมื่อผมเปิดประตูรถแล้วมองไปข้างใน ผมเห็นมีคนอยู่ 4 คน อีก 2 คนเสียชีวิตแล้ว ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนอง ไม่หายใจแล้ว แต่อีก 2 คนที่อยู่ด้านขวา ยังไม่ตาย แต่อาการสาหัส ชายผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะหน้ารถกำลังร้องครวญคราง พยายามหายใจ เขายังสามารถรอได้อีก 2-3 นาที แต่หญิงผู้โดยสารที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นรถ ในสภาพก้มหน้า เธอหายใจลำบากมาก และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทันที”
หมอเมลลิเยซ์เล่าว่า เขารีบวิ่งกลับไปที่รถของเขา โทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลฉุกเฉิน และหยิบถุงช่วยหายใจกลับมายังจุดเกิดเหตุ “เธอไม่รู้สึกตัว ขอบคุณถุงช่วยหายใจของผม เธอเริ่มดีขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังพูดอะไรไม่ได้”
คุณหมอเล่าว่า มารู้ภายหลังว่าหญิงสาวที่เขาพยายามช่วยชีวิตคือ เจ้าหญิงไดอานา จากข่าวที่ช็อกและสะเทือนใจคนทั่วโลก “ผมรู้ว่ามันฟังดูแปลกประหลาด แต่ผมจำเจ้าหญิงไดอานาไม่ได้ ตอนนั้นผมนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถพยายามช่วยชีวิตเธอ ผมยังจำได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่ความสนใจของผมตอนนั้นคือผมต้องทำอย่างไรเพื่อช่วยชีวิตเธอ ผมไม่มีเวลามานั่งคิดว่า เธอเป็นใคร มีคนที่อยู่ข้างหลังผม บอกผมว่า เหยื่อผู้บาดเจ็บพูดภาษาอังกฤษ ผมจึงเริ่มพูดภาษาอังกฤษ บอกว่าผมเป็นหมอ และผมโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลแล้ว ผมพยายามพูดให้เธอสบายใจ”
แต่หมอเมลลิเยซ์เล่าว่า ระหว่างกำลังช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ เขาก็สังเกตเห็นแสงแฟลชจากล้องถ่ายรูป และปาปาราซซีกลุ่มหนึ่งที่กำลังถ่ายรูปในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการไต่สวนของอังกฤษพบว่า นายเฮนรี พอล ผู้ทำหน้าที่ขับรถของเจ้าหญิงไดอานาอยู่ในอาการเมาและขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อหนีการขับรถไล่ล่าของปาปาราซซี
อย่างไรก็ตาม คุณหมอเล่าว่า กลุ่มปาปาราซซีไม่ได้ขัดขวางการทำงานของคุณหมอแต่อย่างใด และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็มาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ร่างของเจ้าหญิงไดอานาถูกนำส่งโรงพยาบาลในกรุงปารีส ที่เจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ต่อมาในอีก 2-3 ชั่วโมง ขณะที่นายโดดี ฟาเยด ลูกชายอดีตเจ้าของห้างแฮร์รอดส์ในอังกฤษ ที่นั่งอยู่ในรถด้วยกันก็เสียชีวิต นายเฮนรี พอล คนขับรถก็เสียชีวิต
“ผมช็อกมากๆ ที่รู้ว่า เธอคือเจ้าหญิงไดอานา และเธอเสียชีวิต จากนั้นผมก็เฝ้าถามตัวเองว่าได้พยายามทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อช่วยชีวิตเธอหรือไม่ ผมทำหน้าที่ของผมอย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ เมื่อผมได้ถามอาจารย์หมอที่สอนผม และตรวจสอบจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาก็เห็นว่า ผมได้ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว”
คุณหมอยังเล่าว่า ถึงแม้จะผ่านมาแล้วเกือบ 25 ปี แต่ทุกครั้งที่ขับรถผ่านอุโมงค์ค์ลอดสะพานปองต์เดอลัลมา ความทรงจำต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาทุกครั้ง “และผมก็เชื่อว่า ชื่อของผมจะต้องติดอยู่กับคืนที่น่าเศร้านี้ไปตลอด และผมก็รู้สึกว่า ผมมีส่วนรับผิดชอบในช่วงเวลาสุดท้ายของเธออยู่บ้าง”