คอลัมน์ ไฮไลต์โลก: อัตราเด็กจบใหม่แดนกิมจิทิ้งงานสูง

REUTERS/Kim Hong-Ji/File Photo

ในยามเศรษฐกิจฝืดเคือง การยังมีงานทำและมีเงินเดือนเข้ามือได้อยู่เป็นปกติ ถือเป็นเรื่องดีที่สุดแล้วในช่วงจังหวะเวลาอย่างนั้น ที่ไม่ต้องมานั่งหวาดหวั่นว่าวันไหนจะถูกปลดออก โดนลอยแพ หรือถูกตัดลดเงินเดือน แม้ที่มีใช้อยู่ในแต่ละวันจะชักหน้าไม่ถึงหลังก็ตาม ฉะนั้น ใครมีงานทำ ก็จงทำหน้าที่รับผิดชอบของตนเองไปให้ดีที่สุด

ที่เกริ่นถึงเรื่องนี้เพราะไปเห็นรายงานผลสำรวจของกระทรวงแรงงานเกาหลีใต้ที่เปิดเผยออกมาเมื่อปลายเดือนที่แล้วพบว่า คนทำงานในวัยที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักลาออกจากงานไป โดยที่ทำงานมายังไม่ถึง 3 ปี โดยคนทำงานกลุ่มนี้ที่จบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยในเดือนมีนาคมปี 2556 ได้ลาออกจากงานไปคิดเป็นสัดส่วนถึง 31.9 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่ลาออกจากงานในปีนี้

แม้ตัวเลขสัดส่วนของเด็กจบใหม่ที่ตัดสินใจลาออก ทั้งๆ ที่ทำงานมาได้เพียงไม่เท่าไรดังกล่าว จะลดลงจากผลการสำรวจในปีที่แล้ว 0.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันก็ตาม แต่หากแยกอัตราเปรียบเทียบการลาออกจากงานของคนทำงานที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ดังกล่าว ยังถือว่ามีสัดส่วนสูงเกินกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ที่คนส่วนใหญ่มักเปลี่ยนงาน เนื่องจากสถานการณ์จ้างงานในเกาหลีใต้ฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น

ในผลสำรวจของกระทรวงแรงงานเกาหลีใต้ยังพบอีกว่า เด็กจบใหม่ที่ลาออกในปีแรกของชีวิตการทำงานมีจำนวน 12.8 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่ 2 มี 10 เปอร์เซ็นต์ และลาออกในปีที่ 3 ของการทำงาน9.1 เปอร์เซ็นต์ จำนวนลดหลั่นลงตามลำดับ โดยในบริษัทที่มีจำนวนพนักงานทำงานอยู่ไม่ถึง 5 คน มีพนักงานที่ลาออกจากงานโดยที่ทำงานมาได้ไม่ถึง 3 ปี จำนวน 59.0 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานราว 1,000 คน หรือมากกว่านั้น จะมีอัตราการลาออกของพนักงานกลุ่มนี้ที่สัดส่วน 23.6 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

อุตสาหกรรมโรงแรมและร้านอาหาร เป็นภาคธุรกิจที่มีพนักงานวัยหนุ่มสาวกลุ่มนี้ลาออกมากที่สุดถึง 50.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาคธุรกิจที่มีคนทำงานวัยหนุ่มสาวกลุ่มนี้ลาออกในอัตราน้อยที่สุด ได้แก่ ภาคการไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำ อยู่ที่ 8.5 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจยังพบว่า สัดส่วนการลาออกของคนทำงานในวัยที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ช่วงปีการศึกษา 2552 มีอัตราต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ โดยคนทำงานที่เรียนจบและได้งานทำในช่วงเวลานี้จะรักษาตำแหน่งงานของตนเองเอาไว้ ก่อนที่สถานการณ์การจ้างงานจะย่ำแย่ลง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเผชิญกับวิกฤตการเงินโลกครั้งใหญ่ในปี 2551

แต่อัตราการลาออกของคนทำงานกลุ่มนี้กลับมาเพิ่มขึ้นเกิน 30 เปอร์เซ็นต์อีก สำหรับผู้ที่เรียนจบในปีการศึกษา 2553 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากกลุ่มคนทำงานเหล่านี้ได้งานที่ตัวเองไม่ชอบ แต่จำเป็นต้องทำไปก่อนเพราะสถานการณ์การจ้างกลับมาแย่ลงอีกครั้งเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกยังคงกระเตื้องดีขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image