เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)

‘The London Bridge is down’ จะเกิดอะไรขึ้น หลังควีนอังกฤษเสด็จสวรรคต

REUTERS/Dylan Martinez/File Photo

‘The London Bridge is down’ จะเกิดอะไรขึ้น หลังควีนอังกฤษเสด็จสวรรคต

หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคตเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 8 กันยายน ราชสำนักอังกฤษจะดำเนินการ “ปฏิบัติการสะพานลอนดอน” ในทันที โดยใช้รหัสลับ “สะพานลอนดอนพังแล้ว” หรือ The London Bridge is down เพื่อกระจายข่าวให้กับคนวงใน อาทิ นายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญอื่นๆ ให้ทราบถึงข่าวร้ายนี้ โดยสำนักข่าวอินดีเพ็นเดนท์ระบุว่า ปฏิบัติการนี้จะใช้เวลารวมประมาณ 11 วันหลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินี ซึ่งจะมีกำหนดการคร่าวๆ ดังนี้

วันทราบข่าวการสวรรคต: ตามธรรมเนียมแล้ววันที่ 8 กันยายนจะต้องเป็นวันที่ศูนย์ หรือวันดีเดย์ของปฏิบัติการสะพานลอนดอน แต่เนื่องจากข่าวการสวรรคตของพระราชินีเอลิซาเบธมาในช่วงเย็นของวันนั้นทำให้ต้องเลื่อนวันเริ่มปฏิบัติการเป็นวันถัดไป

วันที่ 0 – ศุกร์ที่ 9 กันยายน: พระมหากษัตริย์องค์ใหม่หรือ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมทั้ง พระราชินีแห่งคอนสอร์ท จะเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงลอนดอน ในวันที่ 9 กันยายน หลังจากประทับค้างคืนที่ประสาทบัลมอรัลในวันที่ 8 เพื่อมีพระราชณปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรีตามธรรมเนียม ซึ่งถือเป็นการเข้าเฝ้ากษัตริย์พระองค์ใหม่ครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีหลังพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ยังจะทรงพบกับเอิร์ลมาร์แชล หรือดยุคแห่งนอร์ฟอล์ก ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตามแผนงานต่างๆ เกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพ

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงตัดสินพระทัยในเรื่องระยะเวลาของการไว้ทุกข์สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราวหนึ่งเดือน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษจะกำหนดช่วงเวลาในการไว้อาลัยระดับชาติ ซึ่งน่าจะอยู่ที่ 12-13 วัน นับตั้งแต่วันนี้จนถึงภายหลังพระราชพิธีศพ ซึ่งจะประกาศให้เป็นวันหยุดในฐานะวันไว้อาลัยแห่งชาติ

Advertisement

รวมถึงจะมีการลดธงครึ่งเสาที่สถานที่ต่างๆ ยกเว้นที่ประทับของกษัตริย์องค์ใหม่ และการยิงปืนสลุต 96 นัด ตามพระชนมพรรษาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่สวนไฮด์ปาร์ก ด้านมหาวิหารเซนต์ปอลและ พระราชวังวินด์เซอร์ จะมีการลั่นระฆังน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

อีกทั้งกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จากทรงมีพระดำรัสผ่านสถานีโทรทัศน์เพื่อแสดงความโทมนัสต่อการเสด็จสวรรคตของพระมารดา และพระราชทานพระบรมราชโองการแก่ประชาชนเพื่อแสดงถึงพระราชปณิธานในฐานะผู้รับพระราชภาระในฐานะพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างๆ จะเข้าร่วมพิธีทางศาสนา ณ มหาวิหารเซนต์ปอล

วันที่ 1 – เสาร์ที่ 10 กันยายน: สภาเพื่อการสืบราชสมบัติจะประชุมกันที่พระราชวังเซนต์เจมส์ เพื่อประกาศเรื่องการขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ขณะที่คณะองคมนตรีชุดแรกในรัชสมัยจะประชุมกันโดยปราศจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 เพื่อประกาศการเริ่มต้นของการปกครองภายใต้กษัตริย์พระองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงการประกาศให้พระชายาคามิลลา ขึ้นเป็นพระราชินีคนใหม่ เช่นเดียวกับเจ้าชายวิลเลียมที่จะขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร ผู้สืบทอดราชบังลังก์อันดับ 1 ตามด้วยการอ่านประกาศการเริ่มต้นของรัชสมัยใหม่ที่พระราชวังเซนต์เจมส์ และจะมีการประกาศเรื่องดังกล่าวทั้งในกรุงลอนแดนและทั่วทั้งสหราชอาณาจักร

Advertisement

จากนั้นจะมีการชักธงขึ้นสู่เสาตามปกติในเวลา 13.00 น. และจะยังคงชักธงขึ้นสู่ยอดเสาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับมาลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงมีราชปฏิสันถารนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี

วันที่ 2 – อาทิตย์ที่ 11 กันยายน: คาดว่าจะมีการเคลื่อนย้ายหีบพระบรมศพทางถนนมายังพระราชวังฮอลีรูด ในเอดินบะระ

วันที่ 3 – จันทร์ที่ 12 กันยายน: คาดว่าจะมีขบวนแห่หีบพระบรมศพตามถนนรอยัลไมล์ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมสถานที่สำคัญเกี่ยวกับราชวงศ์ในเอดินบะระ มุ่งหน้าไปยังอาสนวิหารเซนต์ไจลส์ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาเป็นการส่วนพระองค์เฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายชาย “ยืนรักษาการ” พระบรมศพ

ด้านสมาชิกสภาสามัญ(สภาล่าง)และสภาขุนนางคาดว่าจะมารวมกันในเวสต์มินสเตอร์เพื่อไว้อาลัย ซึ่งพระมหากษัตริย์สามารถเข้าร่วมด้วยได้ ขณะที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จะเสด็จฯ เยือนประเทศอื่นๆ ภายในสหราชอาณาจักร หรือที่เรียกกันว่า ปฏิบัติการสปริงไทด์

วันที่ 4 – อังคารที่ 13 กันยายน: คาดว่าหีบพระบรมศพจะเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังลอนดอน และนำไปประดิษฐานอยู่ที่พระราชวังบักกิงแฮม รวมถึงจะมีการซ้อมขบวนแห่หีบพระบรมศพจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังพระราชวังเวสต์มินสเตอร์

วันที่ 5-วันที่ 8 – พุธที่ 14 กันยายนถึงเสาร์ที่ 17 กันยายน: หีบพระบรมศพจะถูกย้ายไปประดิษฐานเพื่อเปิดให้ถวายสักการะ ณ โถงเวสมินสเตอร์ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เป็นเวลา 4 วัน

วันที่ 9 – อาทิตย์ที่ 18 กันยายน: สิ้นสุดการสักการะพระบรมศพ เหล่าผู้นำประเทศต่างๆ เริ่มเดินทางมาถึงสหราชอาณาจักรเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ

วันที่ 10 – จันทร์ที่ 19 กันยายน: งานพระราชพิธีพระบรมศพจะจัดขึ้น ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ซึ่งสามารถรองรับประมุขแห่งรัฐ ผู้แทนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วยุโรป ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกได้ราว 2,000 คน ขณะที่พระบรมศพจะถูกนำไปฝังไว้ ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image