ยูเอ็นชี้ ภัยพิบัติสภาพอากาศสร้างความเสียหายกว่า 7 พันล้านบาทต่อวัน
รายงานชิ้นล่าสุดขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) United in Science เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกประจำปีนี้ ชี้ว่า โลกกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ผิด ปัจจุบันภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7,320 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ภัยพิบัติด้านสภาพอากาศที่ไม่อาจย้อนกลับมาได้กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกได้ออกคำเตือนล่าสุดเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนว่า ภัยพิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกเพิ่มขึ้น 5 เท่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และคร่าชีวิตผู้คนเฉลี่ย 115 คนต่อวัน ทั้งยังมีแนวโน้มว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
นายอันโตนิอู กุแตเรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า อุทกภัยในปากีสถาน คลื่นความร้อนในยุโรป ความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ อาทิ จีน ประเทศในจะงอยแอฟริกา (ประเทศที่อยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา) และสหรัฐอเมริกา ล้วนแต่สะท้อนปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กุแตเรสกล่าวว่า ระดับของความรุนแรงใหม่ของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรที่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่มันเป็นผลมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของมนุษย์ และรายงานประจำปีนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากสภาพอากาศที่กำลังมุ่งหน้าไปยังดินแดนแห่งการทำลายล้างที่เราไม่คุ้นเคย แม้ว่าเรากำลังพยายามลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆ ปี แต่สถานการณ์ก็ยังเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว
รายงานดังกล่าวที่ได้นำข้อมูลที่รวบรวมโดยยูเอ็นและหน่วยงานพันธมิตรหลายแห่งระบุว่า มีโอกาสถึง 48% ที่อุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรมในอีก 5 ปีข้างหน้า และมีโอกาส 93% ที่โลกจะเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยเช่นกัน
รายงานของยูเอ็นระบุด้วยว่า ความสูญเสียและความเสียหายดังกล่าวสามารถควบคุมได้ด้วยการดำเนินการอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อนและปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในขณะนี้
ขณะที่คำถามเกี่ยวกับการจ่ายเงินเพื่อชดเชยความเสียหายที่ประเทศยากจนได้รับจากการปล่อยมลพิษโดยชาติร่ำรวย จะเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของยูเอ็นซึ่งจะมีขึ้นที่อียิปต์ในฤดูใบไม้ร่วงนี้
