สิ่งที่จะเกิดในพระราชพิธีพระบรมศพ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’
หลังการเปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้นลงในเวลา 06.30 น.ของวันที่ 19 กันยายน 2565 ตามกำหนด พระราชพิธีพระบรมศพจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น โดยเดวิด ฮอยล์ อธิการแห่งเวสต์มินสเตอร์ และ จัสติน เวลบี อาร์ชบิชอปแห่งเคนเทอร์เบอรี จะเป็นผู้นำในการประกอบพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นแบบรัฐพิธีศพอย่างสมพระเกียรติ ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ อันเป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่มีอายุย้อนไปราวพันปี ในใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งพระราชพิธีพระบรมศพจะเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้อย่างพิถีพิถันขั้นสูงสุด
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีพระบรมศพอันยิ่งใหญ่ที่หาดูได้ยากในชั่วชีวิตหนึ่งของเรา
๐มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
งานพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ที่จัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ครั้งสุดท้าย คืองานพระราชพิธีพระบรมศพของพระเจ้าจอร์จที่ 2 ในปีค.ศ.1760
หลังจากนั้นการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ได้หันมาใช้วิหารเซนต์จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์มากกว่า แต่สำหรับพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้กำหนดให้จัดที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ใหญ่กว่า
๐การรักษาความปลอดภัย
ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์สามารถรองรับผู้คนได้จำนวนถึง 2,200 คน นอกจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์อังกฤษแล้ว สำหรับแขกผู้มีเกียรติที่จะได้รับเชิญเข้าร่วมในงานพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะประกอบด้วย นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นักการเมืองระดับสูง อดีตนายกรัฐมนตรี กษัตริย์และพระราชินีของราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ตลอดจนประมุขแห่งรัฐและแขกวีไอพีต่างๆ
โดยบุคคลสำคัญที่ได้ตอบรับยืนยันว่าจะมาร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพแล้ว มีอาทิ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ แห่งราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา และ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และนางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
นับเป็นความท้าทายระบบการรักษาความปลอดภัยของทางการอังกฤษอย่างยิ่งในการอารักขา คุ้มครองและอำนวยความสะดวกให้กับบรรดาแขกเหรื่อบุคคลสำคัญของโลกที่จะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพครั้งนี้ ซึ่งมีรายงานว่าประธานาธิบดีไบเดนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่บริเวณงานด้วยรถลีมูซีนกันกระสุนของประธานาธิบดี ที่รู้จักกันในชื่อ “เดอะ บีสต์”
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซอก ของอิสราเอล คาดว่าจะเดินทางมาด้วยพาหนะของตนเองเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แขกผู้ร่วมงานคนอื่นๆ จะเดินทางมายังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์โดยรถบัสร่วมที่ประเทศเจ้าภาพจัดเตรียมไว้ให้
๐ลำดับพระราชพิธีพระบรมศพ วันที่ 19 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น
06.30 น. ปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ
08.00 น. ประตูมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เปิด
10.44 น. อัญเชิญหีบพระบรมศพออกจากโถงเวสต์มินสเตอร์
10.52 น. ขบวนอัญเชิญพระบรมศพมาถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
11.00น. พระราชพิธีพระบรมศพเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
11.55 น. ทั่วประเทศสงบนิ่งเป็นเวลา 2 นาที
12.00 น. พระราชพิธีพระบรมศพเสร็จสิ้นลง
12.15 น. ขบวนอัญเชิญพระบรมศพมุ่งหน้าสู่ประตูชัยเวลลิงตัน (Wellington Arch)
13.00 น. อัญเชิญพระบรมศพจากรถปืนใหญ่เกียรติยศ (State Gun Carriage) ของราชนาวีอังกฤษ ไปยังรถบรรทุกหีบพระบรมศพ ณ ประตูชัยเวลลิงตัน
15.06 น.ขบวนรถอัญเชิญพระบรมศพมาถึงพระราชวังวินด์เซอร์
15.10 น.ขบวนอัญเชิญพระบรมศพเคลื่อนไปตามถนนลองวอล์ก
16.00 น. ประกอบพิธีน้อมอาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นครั้งสุดท้าย ที่โบสถ์เซนต์จอร์จ
19.30 น.ประกอบพิธีฝังพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมีขึ้นเป็นการส่วนพระองค์
๐การเคลื่อนพระบรมศพ
ในส่วนรายละเอียดของพระราชพิธีพระบรมศพนั้น จะเริ่มต้นก่อนเวลาราว 10.45 น. หีบพระบรมศพจะถูกอัญเชิญออกจากโถงเวสต์มินสเตอร์ ไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ด้วยรถปืนใหญ่เกียรติยศของกองราชนาวี ซึ่งมีการนำออกใช้งานครั้งสุดท้ายในปีค.ศ. 1979 ในพิธีพระศพของลอร์ดเมาท์แบทเทน พระปิตุลา(ลุง)ของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีควีนเอลิซาเบธที่ 2 โดยมีทหารเรือ 142 นายจากกองราชนาวี เป็นผู้ฉุดลากรถปืนใหญ่เกียรติยศดังกล่าว
โดยกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมเจ้าชายวิลเลียม มกุฎราชกุมาร และ เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ พระราชโอรสทั้งสองพระองค์ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์อื่นๆ เสด็จฯตามหลังขบวนอัญเชิญพระบรมศพ ซึ่งจะนำโดยกองดุริยางค์ปี่และกลองทหารสกอตและไอริช กองทหารแห่งกองทัพอากาศและทหารกุรข่า
ตลอดเส้นทางมีทหารราชนาวีและนาวิกโยธิน ตลอดจนกองทหารเกียรติยศยืนประจำการณ์อยู่บริเวณจัตุรัสรัฐสภา พร้อมด้วยกองทหารจากสามเหล่าทัพ โดยมีกองดุริยางค์ราชนาวีบรรเลงเพลง
๐พระราชพิธีในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
ราว 11.00 น. พระราชพิธีพระบรมศพของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ กระทั่งเสร็จสิ้น เวลาราว 11.55 น. จะมีการเป่าแตรสัญญาณ ที่เรียกว่า เดอะ ลาสต์ โพสต์(The Last Post) ซึ่งหมายถึงการเสร็จสิ้นพระราชพิธี หลังจากนั้นจะมีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 2 นาที ตามด้วยการบรรเลงเพลงชาติและการเป่าปี่สกอตน้อมอาลัยโดยเจ้าหน้าที่ปี่สกอตประจำสำนักพระราชวัง เป็นการเสร็จสิ้นพิธีในเวลาราวเที่ยงวัน
๐การเดินทางสู่วินด์เซอร์
ราว 12.15 น. การอัญเชิญพระบรมศพเริ่มต้นขึ้น โดยการเคลื่อนการออกจากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ไปยังประตูชัยเวลลิงตัน บริเวณหัวมุมสวนไฮด์ปาร์ก ห้วงเวลานั้นหอนาฬิกาบิ๊กเบนจะดังขึ้นทุกๆ 1 นาที ขณะขบวนอัญเชิญพระบรมศพจะเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ตามถนน ซึ่งยังจะมีการยิงสลุตทุกๆ 1 นาทีจากไฮด์ปาร์ก
โดยขบวนอัญเชิญพระบรมศพจะนำโดยตำรวจทหารม้ารักษาพระองค์แห่งแคนาดา พร้อมด้วยทหารจากสหราชอาณาจักรและประเทศเครือจักรภพ ตำรวจและบุคลากรด้านสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ
โดยขบวนรถพระที่นั่งของพระราชินีคามิลลา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เคาน์เตสแห่งเวสเซกซ์ และ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ร่วมในขบวน
เมื่อขบวนอัญเชิญพระบรมศพมาถึงพระราชวังวินด์เซอร์ รถอัญเชิญหีบพระบรมศพจะมุ่งหน้าไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จ ผ่านถนนลองวอล์ก อันเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ ที่จะมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์
เป็นที่คาดหมายว่ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และพระบรมวงศานุวงศ์ จะทรงเข้าร่วมขบวนอัญเชิญพระบรมศพในขั้นตอนสุดท้ายของการเดินทางมาจากลานบน (Quadrangle) ในพระราชวังวินด์เซอร์
๐ที่ประทับสุดท้าย
พิธีฝังพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะมีขึ้นเป็นการส่วนพระองค์ โดยมีเฉพาะสมาชิกใกล้ชิดภายในราชวงศ์เท่านั้น
โดยหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะถูกอัญเชิญมาฝังอยู่ภายวิหารน้อยราชานุสรณ์พระเจ้าจอร์จที่ 6 ในโบสถ์เซนต์จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ เคียงข้างพระศพเจ้าชายฟิลิป พระสวามี รวมถึงพระเจ้าจอร์จที่ 6 และพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชบิดาและพระราชมารดาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระขนิษฐาของพระองค์ด้วย
