ไทยจับกุมนักธุรกิจใกล้ชิด ‘มิน อ่อง ลาย’ คดียาเสพติด สื่อนอกโยงเครือข่ายบิ๊ก ส.ว.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างทางการไทยว่า ได้จับกุมนักธุรกิจชาวเมียนมา ที่ต้องสงสัยว่าค้ายาเสพติด โดยเปิดเผยว่า มีความเชื่อมโยงกับระดับบนของคณะรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา
อ้างอิงจากคำกล่าวของ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า นายตุน มิน ลัต วัย 53 ปี ถูกจับกุมในกรุงเทพมหานคร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับคนไทยอีก 3 คน ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในคดียาเสพติด และฟอกเงิน
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ในขั้นตอนการขอให้ศาลสั่งควบคุมตัวผู้ต้องหา ก่อนการพิจารณาคดี
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าว 3 แหล่ง โดยระบุว่า นายตุน มิน ลัต ทำธุรกิจหลากหลาย ทั้งโรงแรม พลังงาน และเหมืองแร่ โดยเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้นำรัฐบาลทหารพม่า มิน อ่อง ลาย และได้จัดหาเสบียงอาหารให้กับกองทัพ
ทั้งระบุว่า ทางการอังกฤษคว่ำบาตรธุรกิจหนึ่งของนายตุน มิน ลัต ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า เป็นความพยายามที่จะจำกัดการเข้าถึงอาวุธและรายได้ของกองทัพ ทั้งนี้ สื่อทางการของเมียนมา ยังได้เผยแพร่รูปภาพของนายตุน มิน ลัต กับผู้นำรัฐบาลทหาร รวมไปถึงงานแสดงอาวุธที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2019
ทั้งยังอ้างถึงเอกสารของสหประชาชาติ ในปี 2019 นายตุน มิน ลัต เป็นบุตรชายของพันโทพม่า ที่เกษียณอายุแล้ว และได้บริจาคเงินจำนวน 71,500 ดอลลาร์ หรือ 2,636,920 บาท ให้กับกองทัพเมียนมาในปี 2560
รอยเตอร์ระบุว่า ได้พยายามติดต่อไปยังนายตุน มิน ลัต และบริษัทต่างๆ ของเขา รวมถึงโฆษกกองทัพเมียนมาเพื่อขอความคิดเห็นต่อข่าวที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดตอบรับ
อ้างจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลาต่อมาระบุว่า ได้ควบคุมผู้ต้องสงสัย ในข้อหาร่วมกันสมคบกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, ร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และร่วมกันสมคบการฟอกเงินฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นจำนวนหลายจุด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในหลายพื้นที่ และยังยึดทรัพย์สินมูลค่า 200 ล้านบาท จากผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่ ชายสัญชาติเมียนมา อายุ 53 ปี 1 ราย, จับกุมชายไทย อายุ 38 ปี 1 ราย, จับกุมหญิงไทย อายุ 44 ปี 1 ราย และจับกุมหญิงไทย อายุ 50 ปี 1 ราย
ทั้งนี้ ในทวิตเตอร์ทางการของ Justice for Myanmar กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมในเมียนมา รายงานข่าวการจับกุมครั้งนี้ โดยระบุว่า นายตุน มิน ลัต เป็นนายหน้าค้าอาวุธของกองทัพพม่า และฟอกเงินผ่านธุรกิจขายไฟฟ้า ไปยังท่าขี้เหล็ก ติดกับแม่สาย ที่มีธุรกิจกาสิโนอยู่
พร้อมกันนี้ยังได้ระบุว่า มีเครือข่ายธุรกิจที่เชื่อมโยงกับสมาชิกวุฒิสภารายหนึ่งของไทย รวมถึง ลูกสาวของ มิน อ่อง ลาย ซึ่งทำธุรกิจ อาวุธ เหมืองแร่ กาสิโน พลังงาน และท่องเที่ยว
Tun Min Latt is a long standing biz partner of the current Thai senator Upakit Pachariyangkun & an associate of Min Aung Hlaing's daughter, Khin Thiri Thet Mon. Through Allure & Star Sapphire groups, Tun Min Latt operates in arms, mining, casino, energy & tourism industries. pic.twitter.com/w7DIFozzXg
— Justice For Myanmar (@JusticeMyanmar) September 20, 2022
ด้านเว็บไซต์ ดิ อิระวดี สื่อพม่า รายงานถึงข่าวทางการไทยจับกุมนักธุรกิจชาวเมียนมาร่วมกับคนไทย 3 คน ในข้อหาต้องสงสัยค้ายาเสพติดและฟอกเงิน โดยอ้างแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า นักธุรกิจชาวเมียนมาที่ถูกทางการไทยจับกุมรายดังกล่าว คือ ดอกเตอร์ตุน มิน ลัต อายุ 53 ปี ผู้ดำเนินงานกลุ่มบริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป ที่เป็นบริษัทนายหน้านำเข้าโดรนสอดแนมจากอิสราเอลและจัดหาชิ้นส่วนเครื่องบินให้กับกองทัพอากาศเมียนมา
ขณะที่ สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป ยังเป็นคู่ค้ากับบริษัท เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิงส์ จำกัด (เอ็มอีเอชแอล) และ บริษัท เมียนมา อีโคโนมิก คอร์ปอเรชัน (เอ็มอีซี) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจของกองทัพเมียนมา ในการลงทุนร่วมกันหลายอย่าง โดยในรายงานขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ยังมีการระบุชื่อของดอกเตอร์ตุน มิน ลัต ว่าอยู่ในกลุ่มมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับกองทัพเมียนมา ในฐานะเป็นผู้ถือรายใหญ่ใน สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป รายงานของยูเอ็นระบุอีกว่า บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป เป็น 1 ใน 45 บริษัท ที่บริจาคเงินให้กับกองทัพเมียนมาหลังมีการกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ในปี 2017
ดอกเตอร์ ตุน มิน ลัต เป็นลูกชายของพลอากาศโทอู ขิ่น หม่อง ที่เกษียณอายุราชการแล้ว โดยจากปี 2539 อู ขิ่น หม่อง ลัต ได้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวในรัฐบาลทหารของพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักมักคุ้นของกลุ่มบริษัททัวร์ ส่วนดอกเตอร์มิน ตุน ลัต นั้น ถูกระบุว่าได้ร่วมกับนักลงทุนไทยในการทำธุรกิจโรงแรมหลายแห่งในจังหวัดท่าขี้เหล็กด้วย
รายงานด้วยว่า ตุน มิต ลัต เป็นนายหน้าในการตกลงเช่าที่ดิน ระหว่างบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงอย่าง วี เพาเวอร์ และ MEHL ในการตั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ทหาร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส.ว.อุปกิต รับสนิท ‘นายหน้าค้าอาวุธพม่า’ ที่ถูกจับ มา 20 ปี การันตี ไม่มีเอี่ยวยาเสพติด