กลับลำ! รัฐบาล ‘ทรัสส์’ ยกเลิกนโยบายลดภาษี หลังเจอกระแสคัดค้านหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมว่า นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ จำใจต้องยกเลิกนโยบายลดอัตราภาษีเงินได้ หลังนโยบายดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในพรรคอนุรักษนิยม และตลาดการเงิน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 กันยายน นางทรัสส์ และนายควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ได้ประกาศ “แผนเพื่อการเติบโต” ทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ซึ่งจะมีการลดภาษีและปรับลดกฎระเบียบต่างๆ ภายใต้การจัดเงินทุนเพื่อการกู้ยืมจำนวนมากจากรัฐบาลเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจของอังกฤษให้กลับมาฟื้นตัวหลังจากซบเซามานานหลายปี
อย่างไรก็ตาม แผนเศรษฐกิจดังกล่าวกลับทำให้บรรดานักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล สร้างความเสียหายแก่ค่าเงินปอนด์และพันธบัตรรัฐบาล อีกทั้งยังทำให้ตลาดการเงินของโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนทำให้ธนาคารแห่งชาติของอังกฤษต้องเข้าแทรกแซงด้วยการอัดฉีดเงินจำนวน 6.5 หมื่นล้านปอนด์เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดการเงิน
เพียงไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากที่นางทรัสส์ได้กล่าวปกป้องนโยบายทางการเงินดังกล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี ของอังกฤษ นายกวาร์เต็งได้ออกแถลงการณ์ออกมายอมรับว่า นโยบายดังกล่าวกลายเป็นสิ่งเบี่ยงเบนความพยายามที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตในวงกว้าง และช่วยครัวเรือนให้ผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวไปได้
นายกวาร์เต็งย้ำว่า ขณะนี้เขายังไม่คิดถึงเรื่องลาออกแต่อย่างใด โดยนายกวาร์เต็งและนางทรัสส์ต่างเห็นด้วยกับการล้มเลิกโครงการดังกล่าว ด้านนางทรัสส์ได้เผยข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เราเข้าใจแล้ว และเรารับฟัง การลดอัตราภาษี 45% กลายเป็นการรบกวนจุดมุ่งหมายของเราที่จะทำให้อังกฤษเดินหน้าต่อไป
ด้านฝ่ายค้านอย่างพรรคแรงงานกล่าวว่า รัฐบาลของนางทรัสส์ได้ทำลายความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของอังกฤษไปแล้ว ด้านรอยเตอร์ระบุว่า การตัดสินใจที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะยิ่งทำให้ทรัสส์และกวาร์เต็งตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้น และเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการยูเทิร์นทางการเมืองที่น่าอับอายครั้งล่าสุดในประเทศที่มีนายกรัฐมนตรีถึง 4 คนในช่วง 6 ปีผ่านมา
