‘อีลอน มัสก์’ กลับลำ ฟื้นดีลซื้อทวิตเตอร์ ก่อนขึ้นศาลนัดแรก 17 ต.ค.นี้

REUTERS

‘อีลอน มัสก์’ กลับลำ ฟื้นดีลซื้อทวิตเตอร์ ก่อนขึ้นศาลนัดแรก 17 ต.ค.นี้

สำนักข่าวบีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมว่า อีลอน มัสก์ นักธุรกิจแสนล้านเจ้าของบริษัทเทสลามอเตอร์และบริษัทเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ เปลี่ยนใจฟื้นข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์อีกครั้ง โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะถึงกำหนดขึ้นศาลนัดแรกในคดีความฟ้องร้องของทวิตเตอร์ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ จากที่มัสก์เปลี่ยนใจล้มดีลไปก่อนหน้านี้ จนทำให้นำมีการนำเรื่องดังกล่าวไปต่อสู้ในชั้นศาล

โดยในจดหมายที่มัสก์ส่งไปยังบริษัททวิตเตอร์ ระบุว่า เขายินยอมที่จะจ่ายเงินจำนวน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่นายมัสก์เสนอให้กับทวิตเตอร์เมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อที่จะทำให้การดำเนินการทางธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์

ด้านโฆษกของทวิตเตอร์ออกมายืนยันว่า บริษัทได้รับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว และยังเสริมอีกว่าความตั้งใจของบริษัทคือการปิดการซื้อขายแอปพลิเคชันนกสีฟ้าที่ราคา 54.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่มัสก์ตกลงกับทางบริษัทเมื่อเดือนเมษายน

ทั้งนี้ ข้อตกลงการซื้อทวิตเตอร์มีทีท่าว่าจะถูกล้มมาสักระยะ ตั้งแต่ที่มัสก์ประกาศเปลี่ยนใจไม่ซื้อทวิตเตอร์เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เขาลั่นว่าจะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อปฏิรูปทวิตเตอร์ให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเสรีทางการแสดงความคิดเห็น เนื่องจากมัสก์อ้างว่าทวิตเตอร์ไม่ยินยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ปลอม ทำให้ผู้บริหารทวิตเตอร์ออกมาตอบโต้ว่า มัสก์ผู้มีทรัพย์สินกว่า 2.2 แสนล้านดอลลาร์ มีปัญหากับราคาเลยต้องการล้มดีล ซึ่งการต่อสู้ระหว่าง 2 ฝ่ายยืดเยื้อ จนส่งผลให้ราคาหุ้นด้านเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นบริษัทเทสลาตก และลากยาวไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาล

Advertisement

การขึ้นศาลนัดแรกระหว่างมัสก์ และทวิตเตอร์กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งอาจจะเป็นบทสรุปให้กับทั้งสองฝั่งซึ่งได้เผชิญหน้ากันในการฟ้องร้องต่อศาลที่ยืดเยื้อ การต่อสู้ผ่านข้อความส่วนตัว และการทะเลาะวิวาทในพื้นที่สาธารณะอย่างทวิตเตอร์ ซึ่งมักส์มีบัญชีผู้ติดตามมากกว่า 100 ล้านฟอโลเวอร์

ราคาหุ้นทวิตเตอร์ช่วงเริ่มเปิดการซื้อขายมีราคาต่ำว่า 43 ดอลลาร์ แต่ทันทีที่มีข่าวว่ามัสก์ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นในราคาตามข้อตกลงเดิมที่มัสก์ ทำให้ราคาหุ้นของทวิตเตอร์พุ่งขึ้นไป 13% จนต้องมีการสั่งระงับการซื้อขายหุ้นในเวลาต่อมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image