IMF เตือนความเสี่ยง ศก.โลกถดถอยพุ่ง จ่อปรับลดการเติบโตรอบ 4

REUTERS

IMF เตือนความเสี่ยง ศก.โลกถดถอยพุ่ง จ่อปรับลดการเติบโตรอบ 4

นางคริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนว่า โลกกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น จากสภาวะช็อกทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เรามีชีวิตอยู่ด้วยการเจอกับสภาวะช็อก หลังจากช็อก และช็อก

จอร์จีวากล่าวสุนทรพจน์ก่อนการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟในสัปดาห์หน้าโดยระบุว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก ด้วยการจัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุด ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

“ผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมกัน เพื่อป้องกันให้ช่วงเวลาแห่งความเปราะบางที่เพิ่มขึ้นนี้กลายเป็นความปกติใหม่ที่เป็นอันตราย” จอร์จีวากล่าว พร้อมกับเตือนว่า กระบวนการนี้จะเจ็บปวด และยอมรับว่าหากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ดำเนินมาตรการเชิงรุกที่รุนแรงเกินไปเพื่อจัดการกับแรงกดดันด้านราคา ก็อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ยืดเยื้อได้

อย่างไรก็ดี จอร์จีวาชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่ธนาคารกลางของประเทศใหญ่จะถอนมาตรการในการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ

Advertisement

“ความเสี่ยงจากการทำไม่เพียงพอนั้น มากกว่าความเสี่ยงจากการทำมากเกินไป ชัดเจนว่าพวกเขาต้องทำมากกว่านี้ และพวกเขาจะต้องทำมันต่อไป ท่ามกลางแนวโน้มโลกที่ดูมืดมน ความเสี่ยงจากภาวะถดถอยกำลังเพิ่มสูงขึ้น” จอร์จีนากล่าว

กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศ 1 ใน 3 ทั่วโลกจะหดตัวอย่างน้อย 2 ไตรมาส และแม้ในประเทศที่การเติบโตจะเป็นไปในเชิงบวก แต่ความรู้สึกก็จะเหมือนกับอยู่ในภาวะถดถอย เนื่องจากราคาข้าวของที่เพิ่มสูงขึ้นจะกัดกร่อนรายได้ของผู้คน

จอร์จีวากล่าวว่า ปัญหาอุปทานทั่วโลกซึ่งกำลังเป็นประเด็นท้าทายอยู่แล้ว ต้องเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลังการชะลอตัวของการแพร่ระบาดใหญ่ ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก บวกกับความตึงเครียดที่เลวร้ายลงหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเป็นสงครามที่ไร้เหตุผล ส่งผลให้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น และกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับสิ่งอื่นๆ

Advertisement

จอร์จีวากล่าวต่อว่า แม้ปัญหาเงินเฟ้อจะคงอยู่ไม่นาน แต่การดำเนินการก่อนที่ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงจะกลายเป็นสิ่งที่คงอยู่ยาวนานได้กลายเป็นความท้าทายหลักสำหรับผู้กำหนดนโยบาย แต่การไม่ชนะในการต่อสู้ก็จะบ่อนทำลายรากฐานของการเจริญเติบโต เพราะผู้ที่จะต้องเจ็บหนักจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นคือคนจน พร้อมเตือนว่าต้นทุนของการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดนั้นอาจมีค่ามหาศาล และอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ

จอร์จีวายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการคลังเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในสังคม แต่เตือนว่าความพยายามใดๆ จะต้องพุ่งเป้าไปยังครัวเรือนที่มีรายได้น้อยอย่างตรงจุด เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการใดๆ ที่ขัดแย้งกับนโยบายการเงินในปัจจุบัน และเตือนว่าอย่าใช้การควบคุมราคาที่เป็นการดำเนินการซึ่งไม่สามารถจ่ายได้และไม่ได้ผล เพราะการระบาดใหญ่บีบให้หลายประเทศกู้ยืมเงินมากขึ้น ขณะนี้หลายประเทศกำลังเผชิญหรือเสี่ยงต่อการประสบปัญหาหนี้สิน ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นที่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของวิกฤตหนี้ที่กว้างขวางมากขึ้นด้วย เพื่อลดความเสี่ยง เจ้าหนี้รายใหญ่อย่างจีนและเจ้าหนี้ภาคเอกชน จะต้องมีความรับผิดชอบในการดำเนินการ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ที่รวดเร็วและคาดการณ์ได้มากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าไอเอ็มเอฟจะปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 ลงอีกครั้งในรายงานที่จะมีการเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจาก 3.2% เหลือเพียง 2.9% ไปแล้ว ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image