สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ออกมาขอเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเรื่องเงินที่เกิดขึ้น หลังรัฐบาลประกาศเลิกใช้ธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปีอย่างกะทันหัน เพื่อปราบปรามการคอร์รัปชั่นและการเลี่ยงภาษี ทำให้ชาวบ้านแห่แหนกันออกไปแลกเงินกันจำนวนมาก โดยนายโมดีกล่าวว่ารู้สึกเจ็บปวดกับความลำบากที่ประชาชนต้องเจอ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวสำหรับชาวอินเดียที่ยากจน
การประกาศของนายโมดีขึ้นหลังจากรัฐบาลประกาศจะเพิ่มวงเงินสำหรับการถอนเงินสดในแต่ละสัปดาห์ให้มากขึ้นจากสัปดาห์ละ 20,000 รูปี เป็น 24,000 รูปี และหาทางช่วยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลให้สามารถเข้าถึงเงินสดได้มากขึ้นผ่านเครือข่ายธนาคารต่างๆ
ทั้งนี้ หลังการประกาศระงับการใช้ธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี ประชาชนต่างพากันเข้าคิวยาวตามธนาคารและไปรษณีย์เพื่อแลกธนบัตรเก่าที่ใช้ไม่ได้แล้วกับธนบัตรใหม่ รวมไปถึงธนบัตรใบละ 2,000 รูปี ที่ออกมาใหม่ ที่จะเปิดให้มีการนำธนบัตรเก่ามาแลกได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ขณะที่ประชาชนยังคงเข้าคิวกันยาวตามธนาคารต่างๆ จนธนาคารหลายแห่งต้องเปิดให้บริการในช่วงวันหยุด เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด
