IMF ปรับลดการเติบโต ศก.โลกปีหน้า ชี้ภัยคุกคามเพียบ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2656 โดยระบุว่ามีภัยคุกคามมากมาย ตั้งแต่การทำสงครามในยูเครน แรงกดดันเรื้อรังจากเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง ร่วมกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19
ไอเอ็มเอฟประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 2.7% จากเดิมในเดือนกรกฎาคมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.9% ในปีหน้า แต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ที่ยังอยู่ที่ 3.2% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจาก 6% ในปีก่อน
กระนั้นก็ดี นายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชา หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง เขาบอกด้วยว่า เศรษฐกิจหลัก 3 แห่งของโลกได้แก่สหรัฐ จีน และยุโรป กำลังประสบภาวะชะงักงัน ประเทศที่รวมแล้วมีผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็น 1 ใน 3 ของโลกจะประสบภาวะหดตัวในปีหน้า และสำหรับคนจำนวนมากทั่วโลก ในปี 2566 พวกเขาจะรู้สึกเหมือนกำลังประสบกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐลงเหลือ 1.6% ในปีนี้ จาก 2.3% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตลดลงอย่างมากจาก 8.1% ในปีก่อน เหลือเพียง 3.2% ในปีนี้ และคาดว่าจีนจะเติบโต 4.4% ในปีหน้า
ด้านเศรษฐกิจของ 19 ประเทศในยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโรจะย่ำแย่อย่างหนัก เพราะได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงจนน่าตกใจ อันเป็นผลจากสงครามยูเครน และการประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก โดยเศรษฐกิจของยูโรโซนจะเติบโตขึ้นเพียง 0.5% ในปีหน้า
