ไฟดับทั่วยูเครน! รัสเซียเปิดฉากโจมตีโรงไฟฟ้ารอบใหม่ ‘เซเลนสกี’ ชี้ถูกทำลาย 30% ใน 8 วัน
กองกำลังรัสเซียพุ่งเป้าโจมตีสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครนอีกครั้งในวันที่ 18 ตุลาคม โดยการโจมตีเกิดขึ้นทั้งในกรุงเคียฟและเมืองใหญ่อื่นๆ ล่าสุดประธานาธิบดีโวโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตว่า โรงไฟฟ้าของยูเครนราว 30% ถูกทำลายภายในช่วง 8 วันที่ผ่านมา ทำให้เกิดไฟดับครั้งใหญ่ทั่วประเทศ
นายคิรีโล ทิโมเชนโก ผู้ช่วยประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้งในกรุงเคียฟในวันที่ 18 ตุลาคม ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากพื้นที่ด้านซ้ายของเมืองเพียงไม่นานหลังเวลา 09.00 น. ของวันนี้ ใกล้กับโรงไฟฟ้าริมแม่น้ำดนีโปร
รายงานข่าวระบุว่าโรงไฟฟ้า 2 แห่งใจกลางเมืองดนีโปรได้รับความเสียหายร้ายแรง และยังมีรายงานการตัดไฟฟ้าและน้ำประปาในเมืองซีโตมีร์ ทางตะวันตกของยูเครนอีกด้วย
เหตุดังกล่าวถือเป็นการโจมตียูเครนครั้งล่าสุดหลังเกิดเหตุการใช้โดรนกามิกาเซ่ก่อเหตุโจมตีหลายจุดในยูเครนวานนี้ อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในวันอังคารเป็นการโจมตีด้วยโดรนหรือไม่
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้เร่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าในหลายเมืองของยูเครนซึ่งอยู่ไกลจากพื้นที่ในแนวหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีก่อนหน้าฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
โดรนซึ่งเชื่อว่าผลิตขึ้นในอิหร่านได้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 8 รายในกรุงเคียฟและเมืองซูมี ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ นอกจากนี้ยังมีการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยมีรายงานไฟฟ้าดับในเมืองและหมู่บ้านหลายร้อยแห่ง
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวว่า ผู้ครอบครองชาวรัสเซียยังคงเดินหน้าทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด นั่นคือการข่มขู่และสังหารพลเรือน
