คอลัมน์ People In Focus: ไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ

แม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะถูกมองว่าเป็นคนหุนหันพลันแล่น พูดจาโผงผาง ขัดแย้งกับบุคลิกที่ผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐควรจะเป็น ทว่า ไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ กลับเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนและมีความจัดเจนในวงการการเมืองอย่างสูง

“เพนซ์” ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนา วัย 57 ปี ผู้ที่ “ทรัมป์” เลือกให้มาเป็น “รันนิ่งเมท”หรือคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ผ่านมานั้น

มีประสบการณ์ใน “แคปปิตอลฮิล” หรือรัฐสภาสหรัฐมาอย่างโชกโชน

เพนซ์เคยนั่งเป็น ส.ส.ของพรรครีพับลิกันตั้งแต่ปี 2544 ถึงปี 2556 เคยนั่งเป็นประธานที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน ตำแหน่งสำคัญในรัฐสภาสหรัฐ ในปี 2552 ถึง 2554

Advertisement

เส้นทางการเมืองที่แข็งแรงของเพนซ์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประสบการณ์การทำงานในฐานะทนายความที่สุขุมรอบคอบ รวมถึงทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมในฐานะอดีตพิธีกรรายการทอล์กโชว์ทางวิทยุ

ในฐานะ “รันนิ่งเมท” ที่ต้องออกหาเสียงร่วมกับทรัมป์ เพนซ์นับเป็นบุคคลทรงคุณค่าที่จะสามารถเชื่อมรอยร้าวระหว่างพรรครีพับลิกันและทรัมป์เข้าไว้ด้วยกันได้หลังจากผู้มีอิทธิพลในพรรคพากันถอนการสนับสนุนทรัมป์ ผลจากนโยบายการหาเสียงที่ถูกมองว่าเป็นนโยบายแบ่งแยกและสร้างความเกลียดชังในสังคม

และก็เป็นเพนซ์เองที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาผู้บริหารพรรคและกลุ่มแกนกลางแนวคิดอนุรักษนิยมให้มีต่อการบริหารประเทศของทรัมป์ในอนาคตได้

Advertisement

ในการหาเสียงที่ผ่านมา เพนซ์เป็นผู้ที่คอยเบี่ยงเบนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่พุ่งตรงมาหาทรัมป์ ให้สะท้อนกลับไปเป็นการตั้งข้อสงสัยในการบริหารงานของรัฐบาล นายบารัค โอบามา รวมถึงคู่แข่งของทรัมป์อย่าง ฮิลลารี คลินตัน ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉายแสงในการ “ดีเบต” กับ ทิม เคน รันนิ่งเมทของฮิลลารี ที่เพนซ์ทำได้อย่างน่าประทับใจ

เพนซ์ผู้ซึ่งไม่รู้จักทรัมป์เป็นการส่วนตัวมาก่อนที่จะได้รับเลือกให้ร่วมการหาเสียง ถูกมองว่าเป็นผู้ช่วยทรัมป์ในการหาเสียงสนับสนุนจากกลุ่มอนุรักษนิยม โดยเฉพาะกลุ่มคริสเตียน รวมไปถึงผู้มีสิทธิออกเสียงในพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างรัฐอินดีแอนา โอไฮโอ บางส่วนของเพนซิลเวเนีย และมิชิแกน

เพนซ์และทรัมป์มีความเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง เช่น ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพี ที่เพนซ์นั้นแสดงความสนับสนุน ขณะที่ทรัมป์มองว่า “ทีพีพี” จะส่งผลเสียต่อการจ้างงานในประเทศ

เพนซ์มีความเห็นว่าการปิดชายแดนห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศนั้น “ขัดรัฐธรรมนูญ” แม้ว่าขณะหาเสียง เพนซ์จะปกป้องนโยบายการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกก็ตาม อย่างไรก็ตาม เพนซ์ก็ไม่ได้ปกป้องคลิปเสียงเหยียดเพศของทรัมป์ โดยระบุว่า “ผมไม่ให้อภัยกับคำพูดของเขา ผมปกป้องเขาไม่ได้”

เพนซ์เป็นนักการเมืองอนุรักษนิยมที่ปกป้องคุณค่าของครอบครัว ต่อต้านการทำแท้งและการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน และยังต่อต้านนโยบายการรับผู้ลี้ภัยซีเรียด้วย โดยก่อนที่เพนซ์จะเข้าร่วมแคมเปญกับทรัมป์ เพนซ์ต้องเผชิญกับการเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนาที่ยากลำบาก หลังจากเพนซ์ได้ลงนามในข้อกฎหมายของรัฐที่ทำให้ผู้หญิงทำแท้งได้ยากขึ้น กฎหมายซึ่งทำให้อินดีแอนากลายเป็นรัฐที่สองในสหรัฐที่ห้ามไม่ให้ทำแท้ง แม้ทารกในครรภ์จะมีความผิดปกติก็ตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image