กฐินพระราชทานเชื่อมใจ 50 ปีสัมพันธ์ไทย-บังกลาเทศ

กฐินพระราชทานเชื่อมใจ

50 ปีสัมพันธ์ไทย-บังกลาเทศ

รอยยิ้มแห่งความยินดีของชาวบ้านมากมายที่แต่งตัวด้วยสีสันสดใสมาเข้าร่วมในพิธีทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน เสียงสาธุที่ดังก้องพร้อมกับสองมือที่ประนมขึ้นเหนือศีรษะเป็นระยะ และแววตาที่เป็นมิตรของพวกเขา ทำให้เราได้เห็นถึงความปลื้มปิติไปกับงานพิธีทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่งดงาม ณ วัดบินาชุรีศมศานวิหาร ในพื้นที่สูงของเมืองจิตตะกอง ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของบังกลาเทศติดชายแดนเมียนมา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา

พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครานี้ไม่เพียงแต่ทำให้สัมผัสได้ถึงความปิติยินดีของชาวบังกลาเทศหลายร้อยคนที่มาร่วมงานกันจนเต็มพื้นที่หน้าวัด แต่ยังทำให้รำลึกได้ว่าระยะทางที่ห่างไกล ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการสานสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนิกชนสองประเทศ เนื่องในโอกาสสำคัญที่กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดพระพุทธศาสนามาต่อเนื่องยาวนานจนเข้าสู่ปีที่ 27 ในปี 2565 โดยมีเพียงปี 2564 ปีเดียวเท่านั้นที่ว่างเว้นไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

Advertisement

ในปีนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธในบังกลาเทศเพียงประเทศเดียว  เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-บังกลาเทศ โดยมี นายศรัณย์ เจริญสุวรณ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้รับมอบหมายจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งสามารถรวบรวมเงินบริจาค อันประกอบด้วยเงินพระราชทานบำรุงพระอารามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เงินโดยเสด็จพระราชกุศลจากกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา และเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งสิ้นประมาณ 392,090 บาท หรือกว่า 1,031,570 ตากา

วัดบินาชุรีศมศานวิหารเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระสังฆราชญาณศรี มหาสถาวีร์ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 13 แห่งบังกลาเทศ  มีพระชนมายุ 97 พรรษา พระองค์ยังทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2429 ในชุมชนชาวพุทธในพื้นที่ต.เราซาน เมืองจิตตะกอง วัดพุทธแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในต.เราซาน แต่ยังเป็นที่ตั้งของสถานเด็กกำพร้าบินาชุรีและองค์กร Moanoghar ซึ่งส่งเสริมการศึกษาและจัดกิจกรรมสังคมสงเคราะห์ให้กับเด็กและเยาวชนที่มีฐานะยากจนมาตั้งแต่ปี 2527 ที่ในครั้งนี้รองปลัดศรัณย์และ นางมาฆวดี สุมิตรเหมาะ เอกอัครราชทูตไทยประจำบังกลาเทศ ยังได้มอบสิ่งของบริจาคให้กับสถานเด็กกำพร้าของวัดด้วย

Advertisement

ท่านทูตมาฆวดีกล่าวว่า สิ่งที่มีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบังกลาเทศอย่างยิ่งคือความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชน ชาวบังกลาเทศรู้จักประเทศไทยดีและมีความเป็นมิตรกับคนไทย ทั้งยังเดินทางไปประเทศไทยบ่อยๆ ทำให้มีความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทยอย่างมาก

นอกจากนั้นอีกส่วนหนึ่งคือชุมชนพุทธในบังกลาเทศซึ่งมีมากที่จิตตะกอง บังกลาเทศมีวัดพุทธกว่า 1,000 แห่ง ขณะที่รัฐบาลบังกลาเทศก็ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของคนทุกศาสนา และให้การสนับสนุนในการสร้างวัดหรือการสร้างโรงเรียนในวัด ดังนั้นชุมชนชาวพุทธของบังกลาเทศก็เหมือนบ้านเรา ทั้งในแง่ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม หรือนิสัยใจคอ

นอกจากนี้พระสงฆ์บังกลาเทศยังมีความใกล้ชิดกับไทย โดยมีพระสงฆ์หลายรูปได้ไปร่ำเรียนที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต่างๆ เหล่านี้ทำให้ไทยและบังกลาเทศมีสายสัมพันธ์อันพิเศษซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีและใกล้ชิดระหว่างกัน ดังนั้น การเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานมาทอดถวายในครั้งนี้ หรือการที่สถานทูตมีโครงการความร่วมมือชุมชนชาวพุทธในบังกลาเทศอื่นๆ ก็ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ระหว่างกันต่อไปได้เป็นอย่างดี

ขณะที่รองปลัดศรัณย์กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีวันนี้ การที่กระทรวงการต่างประเทศได้เลือกที่จะจัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่บังกลาเทศเพียงแห่งเดียวในปีนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างกันก็สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง ที่ถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ผ่านพุทธศาสนา

สิ่งที่น่าชื่นชมคือแม้ว่าบังกลาเทศจะมีประชากรมากกว่า 90% เป็นมุสลิม และมีประชากรที่นับถือพุทธศาสนาแค่ราว 0.6% แต่รัฐบาลบังกลาเทศก็ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของทุกศาสนา ทำนุบำรุงพุทธศาสนาโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งยังให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับไทยในการจัดงานทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้เป็นอย่างดีอีกด้วย

หลังเสร็จสิ้นพิธี สมเด็จพระสังฆราชญาณศรี มหาสถาวีร์ ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทั้งยังทรงอวยพรให้คนไทย รัฐบาล และคณะที่นำผ้าพระกฐินพระราชทานมาทอดถวายในครานี้ประสบแต่ความสุขความเจริญ

นายอามีร์ ฮุมายุน โชว์ดูรี กงสุลกิตติมศักดิ์ไทย (กสม.) ณ เมืองจิตตะกอง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงธากา เพื่อเตรียมจัดงานพิธีในวันนี้มาล่วงหน้าหลายเดือนจนเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยดีบอกว่า ชาวบ้านในพื้นที่และวัดรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและเป็นเกียรติอย่างมากที่พระมหากษัตริย์ไทยได้พระราชทานผ้าพระกฐินมาทอดถวายที่วัดบินาชุรีศมศานวิหารแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองได้เป็นอย่างดี

กสม.ฮุมายุนที่เป็นชาวมุสลิมแต่ก็เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้อยู่ตลอดบอกด้วยว่า การถวายผ้าพระกฐินพระราชทานไม่ได้เป็นเกียรติกับชุมชนชาวพุทธในประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเกียรติแก่ประเทศบังกลาเทศโดยรวมอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image