เว็บไซต์ www.thedailybeast.com ตั้งคำถามถึงปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ ในวันที่ 20 มกราคม 2560 ภายใต้บทความของเอริน กลอเรีย ไรอัน ว่า “ผมของทรัมป์จะรอดไหมในวันสาบานตน” โดยมีการระบุว่า ทรงผมของทรัมป์ได้กลายมาเป็นประเด็นที่มีผู้ตั้งคำถามกันมากกว่าจะสามารถรับมือกับลมแรงในแคปิตอลฮิลล์ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งได้หรือไม่ เพราะพิธีสาบานตนดังกล่าวต้องทำในที่เปิดโล่ง
ทั้งนี้ ทรงผมของทรัมป์กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันมานานด้วยสไตล์ของทรงผมที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร บางคนให้คำจำกัดความว่าผมของเขาเป็นศิลปะที่ปนกับความยุ่งเหยิง ขณะที่คนบางส่วนก็เม้าท์กันสนุกปากว่าการที่ทรัมป์น่าจะต้องปลูกผม ไม่ก็ไว้ผมทรงนี้เพื่อปิดปังรอยแผลเป็นอะไรบางอย่างบนหนังศีรษะซึ่งอาจเป็นแผลเป็นจากการผ่าตัด
ขณะที่การปรากฎตัวพร้อมกับหมวกคู่กายที่ปักสโลแกน “Make America Great Again” ของทรัมป์ ไม่เพียงแต่จะเป็นการชูคำขวัญในการรณรงค์หาเสียง แต่หมวกแก๊ปที่ทรัมป์ใส่ติดศีรษะยังอาจเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับปกป้องผมของเขาไม่ให้แยกออกจากหนังศีรษะประดุจเดียวกับจักรพรรดิที่ปราศจากเสื้อผ้า
อย่างไรก็ดี ความไว้วางใจที่มอบให้กับหมวกเพื่อรักษาทรงผมของทรัมป์อาจประสบปัญหาในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของเขาในวันที่ 20 มกราคม 2560 เพราะจากข้อมูลพยากรณ์ดินฟ้าอากาศดูจะไม่เป็นใจกับประธานาธิบดีคนใดมากนัก แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดใส่หมวกในวันสาบานตนเลยแม้แต่คนเดียว แล้วทรัมป์จะทำอย่างไรหากไม่มีหมวกคู่ชีพในวันนั้น
หากทรัมป์หาตัวช่วยด้วยการใส่วิกก็ต้องทำให้แน่ใจว่ามันต้องดูเป็นธรรมชาติแม้ว่าจะเจอกับสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ ขณะที่การใช้สเปรย์ ครีมแต่งผม หรือแว็กซ์ก็อาจทำให้ผมที่แสกไปด้านข้างของเขาอาจแข็งจนแปรสภาพคล้ายหมวกกันน็อก แต่ดูเหมือนผมที่ดูมีวอลลุ่มแบบที่ทรัมป์ชื่นชอบจะทำให้เขาเหลือตัวเลือกน้อยมาก
มีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์อาจเลือกที่จะไม่ทำตามประเพณีด้วยการใส่หมวกแบบเป็นทางการ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าหมวกแบบใดจึงจะเหมาะสม แถมยังมีประเด็นที่เขาต้องถอดหมวกระหว่างร่วมพิธี ขณะต้องแตะมือกับไบเบิลและยืนอยู่ตรงหน้าของผู้พิพากษาศาลสูงสุด ซึ่งทรัมป์จะใส่หมวกไม่ได้ แต่การถอดหมวกออกก็อาจกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ เพราะหมวกจะทำให้ผมของทรัมป์ไม่ถูกลมตีจนคล้ายฝากระป๋องที่ถูกดึงขึ้นมา
อย่างไรก็ดี ทีมงานของทรัมป์ก็อาจหาทางออกด้วยการสร้างแท่นเล็กๆ คล้ายกับแท่นที่ใช้ในพิธีแต่งงานขึ้นในเวทีสาบานตน แต่นั่นก็จะเป็นการกระทำที่ผิดประเพณี และทำให้คนมองว่าทรัมป์เป็นคนงี่เง่าที่ไม่สามารถรับมือกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ หากไม่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผมของเขา และยังทำให้ปรากฏภาพที่ดูน่ากระอักกระอ่วนราวกับทรัมป์และผู้พิพากษาศาลสูงสุดกำลังจะแต่งงานกัน
ตอนนี้ดูเหมือนทางออกเดียวที่ทำได้คือ การสวดอ้อนวอนเพื่อให้เกิดเหตุเลวร้ายขึ้นในวันที่ 20 มกราคม เพื่อให้พิธีสาบานตนถูกยกเลิก อาจเกิดฝนตกหนักที่ทำให้ทุกอย่างต้องถูกย้ายเข้ามาในอาคาร หรือเกิดอากาศหนาวเฉียบพลัน แต่ดูเหมือนโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจะน้อยมาก สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นและที่ทรัมป์ต้องการคือหวังว่าสายลมที่พัดผ่านเนชั่นแนลมอลล์ในเวลาเที่ยงวันจะเป็นเหมือนลมหายใจของชาวอเมริกันที่เฝ้ารอเป็นพยาน คือชะงักกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะด้วยอาการช็อก แล้วก็จะหยุดนิ่ง
