‘ดอน’ ชี้เอเปคเผชิญหัวเลี้ยวหัวต่อ หวังทุกฝ่ายก้าวข้ามความแตกต่าง ร่วมมือด้านศก.-การค้า

นายดอนขณะร่วมงานเลี้ยงต้อนรับรัฐมนตรีเอเปค เมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน

‘ดอน’ ชี้เอเปคเผชิญหัวเลี้ยวหัวต่อ หวังทุกฝ่ายก้าวข้ามความแตกต่าง ร่วมมือด้านศก.-การค้า

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 33 ว่า การรวมตัวกันในวันนี้มีความหมายหลายประการ ประการแรกนี่คือการประชุมแบบเจอตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นประจักษ์พยานว่าโรคระบาดได้สร้างความเสียหายหลายด้านในทุกมุมโลกนับตั้งแต่ปี 2562 และยังคงวนเวียนอยู่กับเราจนถึงทุกวันนี้

ประการที่สอง เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ เราจำเป็นต้องคิดใหม่เกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเติบโตของเราที่ต้องมีความยั่งยืนเพิ่มขึ้นและไม่แบ่งแยก รวมถึงมีความสมดุลมากขึ้นด้วย นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับช่องว่างอันน่าหวาดกลัวระหว่างความไม่เท่าเทียม เรียกร้องให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจของเราต้องไตร่ตรองถึงแนวทางที่เราสามารถทำได้และจะต้องทำให้ดีขึ้น ร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของขั้นตอนและวิธีในการทำการค้าของเรา จะต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีและกลยุทธ์ใหม่ ที่สำคัญกว่านั้นคือความคิดใหม่ เพื่อให้การปรับเปลี่ยนที่จำเป็นเหล่านี้เป็นไปได้ การรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่ทางเลือก

ประการที่สาม วิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 ได้กำหนดเป้าหมายที่ครอบคลุมสำหรับเอเปค แต่เพื่อไปถึงจุดนั้น เราจำเป็นต้องจัดการกับวิธีการว่าจะทำเช่นไร แม้หัวข้อการหารือของรัฐมนตรีเอเปคในปีนี้คือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” และในส่วนของผู้นำจะเป็นเรื่องโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี หรือเศรษฐกิจชีวิภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว การสานสัมพันธ์ของทั้งสามส่วนนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เพราะมันคือเรื่องของการสร้างคุณค่าและความยั่งยืน โดยไม่ทิ้งคุณค่าใดๆ ไว้เบื้องหลัง

ประการสุดท้ายซึ่งเป็นประเด็นที่สี่ การประชุมเอเปคในปีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงสองด้าน ไม่ต้องพูดถึงความขัดแย้งด้านความมั่นคงที่รุนแรงซึ่งไม่รู้ว่าชัยชนะจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกับที่โลกต้องเผชิญกบัเงินเฟ้อรุนแรงซึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ห่วงโซ่อุปทานที่ขาดสะบั้นและขาดแคลน ภัยพิบัติจากสภาพอากาศ และการผลิตที่ล้าสมัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับแต่งอย่างจริงจังในแง่ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

Advertisement

เรื่องต่างๆ ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อเราเห็นการเพิ่มขึ้นของวัฒนธรรมการคว่ำบาตรที่มากขี้น ซึ่งแทรกซึมอยู่ในทุกการสนทนาและการกระทำ ทำให้การประนีประนอมดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่การประชุมเอเปคในปีนี้ต้องก้าวข้ามความท้าทายเหล่านั้น และส่งมอบความหวังให้กับโลกว่า ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่ายมันมีโอกาสที่เราสามารถเอาชนะและเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน

เราต้องแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมมือกันเพื่อป้องกันแนวโน้มอันเลวร้าย และขอให้พยายามอย่างดีที่สุดในการออกแถลงการณ์ร่วมของเรา แทนที่จะเป็นเพียงแถลงการณ์ของประธาน ความรุนแรงจากความท้าทายทางเศรษฐกิจนั้นไม่มีสิ่งใดเปรียบ เราสามารถแสดงให้เห็นถึงศิลปะของความเป็นไปได้ในประเด็นด้านการค้า การพาณิชย์ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่สามารถบรรลุความสำเร็จได้แม้จะมีความแตกต่างกันในประเด็นการเมืองและความมั่นคงก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลงมือทำในสิ่งที่โลกเฝ้ารอให้สำเร็จ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image