‘เพโลซี’ ประกาศลงจากเก้าอี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หลังรีพับลิกันคว้าชัย คุมสภาล่าง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี นักการเมืองหญิงผู้ทรงอิทธิพลในสภาคองเกรสสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ในวัย 82 ปี ประกาศจะลงจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เธอมีบทบาทนำมายาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ เมื่อพรรครีพับลิกันจะเข้ามาคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในเดือนมกราคมปีหน้า หลังผลเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ว่าพรรครีพับลิกันเฉือนชนะได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างไปเพียงเล็กน้อย
นางเพโลซีประกาศถึงการตัดสินใจครั้งนี้ด้วยถ้อยคำที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ตนจะไม่ลงแข่งขันในตำแหน่งผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสอีกต่อไป โดยกล่าวว่าถึงเวลาแล้วสำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมานำพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม เพโลซียังจะทำหน้าที่เป็นส.ส.พรรคเดโมแครตจากเขตเลือกตั้งในมลรัฐแคลิฟอร์เนียต่อไป
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐแห่งพรรคเดโมแครต กล่าวยกย่องเพโลซีว่าเป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยตัวยงและเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
“เพราะแนนซี เพโลซี ชีวิตของชาวอเมริกันหลายต่อหลายล้านคนดีขึ้น แม้กระทั่งในพื้นที่ที่มีผู้แทนจากพรรครีพับลิกันซึ่งโหวตคัดค้านร่างกฎหมายหลายฉบับของเธอและมักจะใส่ร้ายเธอ”
ขณะที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าวยกย่องเพโลซีว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน “ผมรู้สึกขอบคุณมิตรภาพและความเป็นผู้นำของเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
เพโลซี ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาคองเกรสในนามพรรคเดโมแครตในปี 1987 ก่อนก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในปี 2007 ทำให้เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นนักการเมืองหญิงเพียงคนเดียวที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในสหรัฐ
เมื่อไม่นานนี้ เพโลซี ยังเคลื่อนไหวท้าทายจีน ด้วยการไปเยือนไต้หวัน ที่รัฐบาลปักกิ่งถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน จนจุดความตึงเครียดขึ้นอย่างหนักในช่องแคบไต้หวันตามมา
สำหรับผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐคนใหม่จากพรรครีพับกันที่วางตัวไว้แล้วคือ เควิน แมคคาร์ธี ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย วัย 57 ปี