มหาวิทยาลัยจีนส่งนักศึกษากลับบ้าน อ้างคุมเข้มโควิด เชื่อลดโอกาสเคลื่อนไหว
มหาวิทยาลัยในจีนพากันส่งนักศึกษากลับบ้าน ภายใต้ความพยายามที่ถูกมองว่าเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการประท้วงมากขึ้น หลังจากเกิดเหตุประท้วงใหญ่แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อชาวจีนไม่พอใจกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่คุมเข้มจนพวกเขาเชื่อว่า เป็นเหตุให้ชาวอูรุมชี 10 คนเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ตึกสูงในมณฑลซินเจียง จนลุกลามกลายเป็นเสียงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออก
การระดมกำลังตำรวจจำนวนมากออกมาควบคุมสถานการณ์ทำให้ในวันที่ 28 และ 29 พฤศจิกายน ไม่มีเหตุประท้วงใดๆ เกิดขึ้นอีกทั้งในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ รวมถึงเมืองใหญ่อื่นๆ ของจีน ขณะที่มีการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มในหลายเมือง เพื่อลดทอนความโกรธเคืองของประชาชน
มหาวิทยาลัยชิงหวา ที่ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยศึกษาอยู่และมีนักศึกษาออกมาร่วมประท้วงในวันอาทิตย์ รวมถึงมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในกรุงปักกิ่งและมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ระบุว่า พวกเขากำลังปกป้องนักศึกษาจากโควิด-19 แต่การกระจายพวกเขาให้กลับไปยังบ้านเกิดซึ่งห่างไกล ก็ยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการเคลื่อนไหวมากขึ้น หลังเหตุประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
มหาวิทยาลัยบางแห่งได้จัดรถโดยสารรับส่งนักศึกษาไปยังสถานีรถไฟ โดยระบุว่าชั้นเรียนและการสอบปลายภาคจะดำเนินการผ่านระบบออนไลน์
ต้าหลี่ หยาง ผู้เชี่ยวชาญการเมืองจีนจากมหาวิทยาลัยชิคาโกของหสรัฐ กล่าวว่า การส่งนักศึกษากลับบ้านเป็นการดำเนินการบนความคาดหวังของทางการที่จะคลี่คลายสถานการณ์ สำหรับนักศึกษาแล้ว การดำเนินการเช่นนี้จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากการถูกล็อกดาวน์ในมหาวิทยาลัยแบบที่เป็นมาหลายเดือนแล้ว แต่สำหรับคนอื่นๆ โอกาสในการทำงานและธุรกิจของพวกเขาถูกทำลาย ซึ่งทำให้พวกเขาผิดหวัง
ในเมืองหลักประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ลอนดอน ปารีส โตเกียว ซิดนีย์ และโซล มีการออกมารวมตัวประท้วงเล็กๆ ของผู้คัดค้านและนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้เข้าร่วมประท้วงหลักสิบ มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีผู้ร่วมประท้วงหลักร้อย นอกจากนี้ยังมีผู้ออกมาร่วมประท้วงที่ฮ่องกงราว 50 คนด้วย ซึ่งถือเป็นการประท้วงใหญ่ในรอบหลายปี
