ไทย-อียูชี้ PCA ยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ประกาศชัดความเป็นหุ้นส่วน
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการลงนามร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านไทย-สหภาพยุโรป (อียู) หรือ Partnership and Cooperation Agreement (PCA) โดยนายอสิ ม้ามณี อธิบดีกรมยุโรป และนายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
นายอสิกล่าวว่า การลงนามร่างกรอบความตกลงดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับอียู นับตั้งแต่ปี 2521 ที่อียูได้จัดตั้งคณะผู้แทนที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความร่วมมือไทย-อียูที่สองฝ่ายจะมีกรอบแผนงานที่ชัดเจน และมีรายละเอียดของประเด็นความร่วมมือครอบคลุม ตั้งแต่ประเด็นการปกป้องสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน การยกระดับมาตรฐานเพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน การแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างเป็นระบบ การทำประมงอย่างยั่งยืน ไปจนถึงความร่วมมือในโลกไซเบอร์และในอวกาศ นอกจากนี้ PCA ยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การเปิดการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับอียูรอบใหม่ต่อไปด้วย
ด้านนายเดวิดเริ่มต้นการแถลงโดยถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงในเร็ววัน สหภาพยุโรปขอแสดงความห่วงใยและยืนเคียงข้างคนไทยทุกคน
นายเดวิดกล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะเจรจาจากทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายสหภาพยุโรปที่ทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จนบรรลุผลการเจรจา PCA ที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ระหว่างการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษอียู-อาเซียน ณ กรุงบรัสเซลส์
“การลงนามในความตกลงฯ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการประกาศความเป็นหุ้นส่วนระหว่างอียูและประเทศไทย และเป็นตัวแทนของการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ก้าวต่อไปอีกระดับ”นายเดวิดกล่าว
