หลังความพยายามยื่นเรื่องเพื่อให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐใหม่ในสามรัฐที่คะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชนะเลือกตั้งและว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 กับนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต สูสีกันอย่างมาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวหาว่ามีคนหลายล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้กับฮิลลารีอย่างผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นเขาก็จะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในป๊อปปูลาร์โหวตด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ทรัมป์เผยแพร่ข้อความดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาโดยไม่มีการให้หลักฐานใดๆ แต่ระบุเพียงว่านอกเหนือจากชัยชนะในอิเล็กเทอรัลโหวตอย่างถล่มทลายแล้ว เขายังได้รับชัยชนะในป๊อปปูลาร์โหวตด้วย หากมีการตัดเอาคนที่ลงคะแนนเสียงอย่างผิดกฎหมายหลายล้านเสียงออกไป และมันจะเป็นเรื่องง่ายกว่ามากสำหรับเขาที่จะได้รับชัยชนะในป๊อปปูลาร์โหวตมากกว่าอิเล็กเทอรัลโหวต เพราะเขาออกไปรณรงค์หาเสียงแค่ใน 3-4 รัฐ แทนที่จะต้องไปมากถึง 15 รัฐ
นับเป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ออกมากล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งที่ตนเองได้รับชัยชนะ และยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ดีคาดว่าทรัมป์อาจหมายถึงการนำเสนอข่าวปลอมว่าด้วยทฤษฎีสมคบคิดผ่านทางเว็บไซต์หลายแห่งที่ระบุว่าในความเป็นจริงแล้วเขาได้รับชัยชนะเหนือนางฮิลลารีในป๊อปปูลาร์โหวตด้วย
ทรัมป์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างร้ายแรงในรัฐเวอร์จิเนีย นิวแฮมป์เชียร์ และแคลิฟอร์เนีย แต่สื่อกลับไม่รายงานข้อมูลเหล่านี้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอคติที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาใหญ่ และว่าฮิลลารีได้ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งตั้งแต่ที่โทรมาหาเขาก่อนที่เขาจะขึ้นพูดหลังทราบผลการนับคะแนนแล้ว ซึ่งไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ และว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องเสียทั้งเงินและเวลามากมาย แต่ผลที่ได้ก็จะเหมือนเดิม
