หนาวนี้ยุโรปทั่วทวีปร้อนจัดเป็นประวัติการณ์
ฤดูหนาวปีนี้ทำสถิติร้อนเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศทั่วยุโรป หลังอุณหภูมิในเดือนมกราคมทำสถิติสูงที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ โดยกว่า 10 ประเทศมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อุณหภูมิเมื่อวันที่ 1 มกราคม อยู่ที่ 18.9 องศาเซลเซียส ขณะที่เมืองบิลบาโอ ทางตอนเหนือของประเทศสเปน อุณหภูมิอยู่ที่ 25.1 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติมากกว่า 10 องศาเซลเซียส
เช่นเดียวกับอุณหภูมิในเนเธอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ เดนมาร์ก และเบลารุส ต่างพุ่งสูงทำลายสถิติ สถานการณ์ก็ไม่ต่างกันนักในเยอรมนี ฝรั่งเศส และยูเครน
เทือกเขาแอลป์ทางตอนกลางของทวีปยุโรปประสบปัญหาขาดแคลนหิมะเนื่องจากอากาศที่อุ่นผิดปกติในฤดูหนาว ทำให้เทือกเขาที่จะต้องถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนกลายเป็นสีเขียวขจีจากทุ่งหญ้าทั่วทั้งไหล่เขา ทำให้ผู้ประกอบการลานสกีและผู้ที่ชอบเล่นสกีพากันปวดหัวกับสภาพการณ์ดังกล่าว ไล่ตั้งแต่อินส์บรุคในออสเตรีย วิยาร์-ซูร์-โอลลอนและครานส์-มอนทานาในสวิตเซอร์แลนด์ ไปจนถึงเลนก์กรีสในเยอรมนี
สภาพอากาศดังกล่าวทำให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เชื่อมโยงกับปัญหาโลกร้อน สำนักอุตุนิยมวิทยาของสวิตเซอร์แลนด์ชี้ว่า อุณหภูมิในขณะนี้ถือว่าร้อนที่สุดเท่าที่ปรากฏ โดยเทือกเขาจูราซึ่งเป็นพรมแดนฝรั่งเศส อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 18.1 องศาเซลเซียส ในวันที่ 1 มกราคม สูงกว่าสถิติเดิมในเดือนเดียวกันมากกว่า 2 องศาเซลเซียส และสถานการณ์เช่นเดียวกันก็ปรากฏขึ้นในอีกหลายๆ เมือง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของฝรั่งเศสระบุว่า เทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้และทางตอนเหนือซึ่งมีความสูงกว่า 2,000 ฟุตมีระดับหิมะใกล้เคียงกับปกติ แต่ในระดับที่ต่ำกว่านั้นไม่มีหิมะอยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือหรือทั่วทั้งเทือกเขาพิเรนีส
อุณหภูมิในสวิตเซอร์แลนด์แตะ 20 องศาเซลเซียส สภาพอากาศที่อบอุ่นได้ส่งผลกระทบต่อสกีรีสอร์ตทั่วเทือกเขาแอลป์ที่ประสบปัญหาหิมะขาดแคลน แต่อุณหภูมิในยุโรปไม่ได้อุ่นขึ้นทั้งหมด คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะลดลงและมีหิมะตกในบางพื้นที่ของสแกนดิเนเวียและมอสโก ซึ่งอุณหภูมิลดลงถึง -20 องศาเซลเซียสในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสเปน ประกาศว่า ปี 2022 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ คลื่นความร้อนจะมีความถี่มากขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลจากน้ำมือมนุษย์
