สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เรือบรรทุกผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่ลี้ภัยหนีความรุนแรงในพม่าหลายลำ ถูกยามฝั่งของบังกลาเทศผลักดันกลับไปยังพม่าเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน แม้จะมีคำขอร้องจากพรรคฝ่ายค้านบังกลาเทศให้จัดหาที่พักชั่วคราวให้ชนกลุ่มน้อยที่ถูกข่มเหงรังแกเหล่านี้
ชาวโรฮีนจาหลายพันคนที่สิ้นหวังจากรัฐยะไข่ทางตะวันตกของพม่าได้หนีไปยังชายแดนบังกลาเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมคำบอกเล่าที่กล่าวอ้างถึงพฤติกรรมอันน่าตกตะลึงของกองกำลังฝ่ายความมั่นคงพม่าที่กระทำต่อชาวโรฮีนจา ทั้งรุมข่มขืน ทรมานและเข่นฆ่าสังหาร
พันเอกอาบูซาร์ อัล ซาฮิด หัวหน้ายามฝั่งเมืองเทกนาฟ เปิดเผยว่า มีเรือ 8 ลำ พยายามที่จะข้ามแม่น้ำนาฟที่คั่นระหว่างรัฐยะไข่กับภาคใต้ของบังกลาเทศ ถูกผลักดันกลับไปในวันดังกล่าวนี้ หลังจากที่มีเรือ 6 ลำ ถูกปฏิเสธไม่ไห้เข้าบังกลาเทศมาแล้วเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีชาวโรฮีนจาราว 12 – 13 คนอยู่บนเรือแต่ละลำ
ทางการบังกลาเทศเปิดเผยว่ายังมีชาวโรฮีนจาอีกหลายพันคนที่ติดค้างอยู่บริเวณชายแดน แต่รัฐบาลได้ปฏิเสธคำขอจากประชาคมนานาชาติให้รับคนพวกนี้เข้าไป พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าทำมากกว่านี้เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ชาวโรฮีนจาหนีมา
ข่าวระบุว่า ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยามฝั่งบังกลาเทศได้สกัดกั้นชาวโรฮีนจามากกว่า 1,000 คนรวมถึงผู้หญิงและเด็กไม่ให้เข้าประเทศทางเรือ โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นางคาเลดา เซีย ผู้นำฝ่ายค้านได้ร่วมกับประชาคมนานาชาติในการเรียกร้องต่อรัฐบาลให้จัดหาที่พักชั่วคราวให้ชาวโรฮีนจาที่หนีความรุนแรงมาจากพม่าด้วย
