เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นในสหรัฐอีกครั้ง หลังนายอับดุล ราซัก อาลิ อาร์ตัน วัย 18 ปี ผู้อพยพชาวโซมาเลียที่ได้สิทธิพำนักในสหรัฐเป็นการถาวร ก่อเหตุขับรถพุ่งชนคนเดินภายในมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท รัฐโอไฮโอ เมื่อเวลาราว 10.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน ตามเวลาในสหรัฐ จากนั้นจึงลงจากรถมาใช้มีดไล่แทงผู้คน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตในที่สุด
รายงานเบื้องต้นระบุว่าอาร์ตันได้ขับรถขึ้นมาบนทางเดินและพุ่งชนผู้คนที่ทางเดินเท้าใกล้กับวัตต์ฮอล ซึ่งเป็นอาคารเรียนด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม จากนั้นก็ลงจากรถและใช้มีดหั่นเนื้อไล่แทงผู้คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพราะกำลังตรวจสอบก๊าซรั่วรีบเข้ามาระงับเหตุการณ์ และได้ยิงอาร์ตันเสียชีวิตหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงนาที โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งเจ้าหน้าที่และนักศึกษา
ทั้งนี้กล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพว่าอาร์ตันเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยเพียงลำพังก่อนจะลงมือก่อเหตุ ทำให้เชื่อได้ว่าไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดในการลงมือครั้งนี้ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า กำลังเร่งสอบสวนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการรร้ายหรือไม่ ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ก็ได้เข้าร่วมในการสอบสวนดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า ตอนแรกเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ จนกระทั่งเห็นชายถือมีดลงมาจากรถ ขณะที่มหาวิทยาลัยทวีตเตือนนักศึกษาให้หาที่ซ่อนตัว พร้อมกับเตือนว่ามีการยิงกันเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ระบุในภายหลังว่าผู้ก่อเหตุไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเจ้าหน้าที่ประกาศว่าได้เคลียร์พื้นที่ทั้งหมดแล้ว พร้อมยกเลิกคำสั่งให้นักศึกษาอยู่แต่ในที่กำบัง แต่มีการยกเลิกชั้นเรียนทั้งหมดในวันเดียวกัน โดยนักศึกษาได้ทำการจุดเทียนและสวดมนต์ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงค่ำวันเดียวกัน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐได้เตือนว่ามีความพยายามของกลุ่มหัวรุนแรงที่จะหาผู้คนให้ลงมือก่อเหตุโจมตีด้วยมีดและรถ ซึ่งทำได้ง่ายกว่าการก่อเหตุระเบิด ขณะที่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เรียกร้องให้ผู้ที่เห็นด้วยใช้อาวุธใดๆ ก็ตามที่หากได้เพื่อก่อเหตุโจมตีขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้รถพุ่งชนขบวนพาเหรดในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่นครนิวยอร์กในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ ขึ้นในวันนั้น ขณะที่การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นทันทีที่นักศึกษากลับมาเข้าเรียนต่อหลังวันหยุดช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า
