5 หนุ่มรัสเซียหนีทหาร ใช้ชีวิตติดแหง็กที่สนามบินอินชอนหลายเดือน หลังโสมใต้ปัดให้สถานะผู้ลี้ภัย

แฟ้มภาพเอเอฟพี

5 หนุ่มรัสเซียหนีทหาร ใช้ชีวิตติดแหง็กที่สนามบินอินชอนหลายเดือน หลังโสมใต้ปัดให้สถานะผู้ลี้ภัย

เมื่อวันที่ 28 มกราคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ชายชาวรัสเซีย 5 คน ที่หลบหนีคำสั่งระดมพลของกองทัพรัสเซียที่ประกาศออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ต้องใช้ชีวิตตกค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติอินชอน ของเกาหลีใต้ เป็นเวลานานหลายเดือน เนื่องจากทางการเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่พวกเขา

จากการเปิดเผยของ อี จงชาน ทนายความของชายชาวรัสเซียหนีทหารทั้ง 5 คนนี้ บอกว่า ในจำนวนนี้ 3 คน เดินทางมาถึงสนามบินอินชอนในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และอีก 2 คน เดินทางมาถึงเดือนพฤศจิกายน ทั้งหมดได้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย แต่ถูกกระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ปฏิเสธ ทำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ผู้โดยสารขาออกมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ในระหว่างรอคำตัดสินที่พวกเขาได้ยื่นอุทธรณ์ไป

นายอีบอกอีกว่า ชายชาวรัสเซียทั้ง 5 คน ได้รับการจัดหาอาหารให้วันละมื้อ ซึ่งเป็นมื้อกลางวัน ส่วนที่เหลือของวันพวกเขาประทังชีวิตด้วยขนมปังและเครื่องดื่ม พวกเขาสามารถอาบน้ำได้ แต่ต้องซักเสื้อผ้าด้วยมือ และไม่สามารถออกนอกพื้นที่ผู้โดยสารขาออกและดิวตี้ฟรีได้

“พวกเขาเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างจำกัด (และ) ไม่มีการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่ล่อแหลม” นายอีกล่าว และว่า กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ ปฏิเสธการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยของชายชาวรัสเซียเหล่านี้ว่า “ไม่สมควรได้รับการประเมิน” โดยให้เหตุผลว่าการปฏิเสธการเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่เหตุผลสำหรับการยอมรับผู้ลี้ภัย การปฏิเสธเข้ารับใช้กองทัพรัสเซียของพวกเขา “ควรได้รับการยอมรับว่าเป็นเหตุผลทางการเมือง” เมื่อพิจารณาว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียนั้นถูกประณามโดยกฎหมายระหว่าง”

Advertisement

ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ยอมรับชายชาวรัสเซียดังกล่าวเป็นผู้ลี้ภัย โดยชี้ว่าผู้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยเนื่องจากหลบหนีการประหัตประหารทางการเมืองและศาสนาจากประเทศบ้านเกิด มีสิทธิได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ทนายความของชายชาวรัสเซียทั้ง 5 คน ระบุว่า พวกเขาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อการตัดสินใจดังกล่าวของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ โดย 3 คนมีกำหนดฟังคำตัดสินในวันที่ 31 มกราคมนี้ ว่าศาลจะชี้ขาดว่าการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยของพวกเขาสมควรได้รับการประเมินหรือไม่

หากศาลตัดสินเห็นชอบ กระทรวงยุติธรรมจะต้องทบทวนคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยของชายชาวรัสเซียกลุ่มนี้

Advertisement

ทั้งนี้ หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกคำสั่งระดมกำลังพลเพิ่ม 300,000 นาย เพื่อเข้าร่วมสู้รบในสมรภูมิยูเครน ได้จุดกระแสประท้วงต่อต้านคำสั่งดังกล่าวและมีชายชาวรัสเซียจำนวนมากพากันอพยพหนีออกจากรัสเซียผ่านทางชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หรือเดินทางโดยเครื่องบินออกนอกประเทศ ที่ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินออกจากรัสเซียพุ่งสูงเป็นหลายเท่าตัว

ข้อมูลที่รวบรวมได้ชี้ว่ามีชาวรัสเซียมากกว่า 200,000 คน หลบหนีออกจากรัสเซียไปยังประเทศจอร์เจีย คาซัคสถานและสหภาพยุโรป (อียู) ในเพียงสัปดาห์แรกหลังปูตินประกาศระดมกำลังพลในปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image