สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ ออกมาประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนว่า จะถอยห่างออกจากอาณาจักรธุรกิจของตัวเองที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนขึ้นเมื่อขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ หลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมที่จะถึงนี้ แม้ว่ากฎหมายสหรัฐจะไม่ได้บังคับให้ทรัมป์ต้องออกจากธุรกิจเมื่อดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐก็ตาม
นายทรัมป์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพท์วัย 70 ปี ผู้เป็นทั้งเจ้าของกิจการโรงแรม จนถึงสนามกอล์ฟ ตั้งแต่ในประเทศปานามา ไปจนถึงในสกอตแลนด์ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์อีกว่า จะมีการแจกแจงรายละเอียดว่าตนจะปลีกตัวออกจากธุรกิจทั้งหมดอย่างไร ในการแถลงข่าวซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้ตนออกจากธุรกิจทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ ซึ่งลูกๆของตนที่จะมารับช่วงต่อจะร่วมในการแถลงข่าวที่จะมีขึ้นด้วย
ข่าวระบุว่า หลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน บริษัท ทรัมป์ ออร์กาไนเซชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของทรัมป์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างของธรุกิจเพื่อถ่ายโอนการควบคุมดูแลไปยัง โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ , อีวานกา ทรัมป์ และ เอริค ทรัมป์ ลูกทั้งสามคนของนายโดนัลด์ทรัมป์
