ยูเอ็นหวั่น เลือกตั้งเมียนมาสุมไฟความรุนแรง
นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสจี) ออกมาแสดงความสนับสนุนต่อความปรารถนาที่จะกลับสู่ประชาธิปไตยของชาวเมียนมา แต่เตือนว่าการเลือกตั้งตามแผนการที่กองทัพเมียนมาวางไว้ ท่ามกลางการปราบปรามพลเรือนและผู้นำทางการเมืองนั้นเสี่ยงที่จะเพิ่มความไร้เสถียรภาพในเมียนมา
นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า เลขาธิการยูเอ็นประณามความรุนแรงทุกรูปแบบในเมียนมา ขณะที่วิกฤตในเมียนมาทวีความรุนแรงขึ้น และกระตุ้นให้เกิดผลกระทบร้ายแรงในภูมิภาค
“ท่านเลขาธิการยังกังวลต่อความตั้งใจของกองทัพเมียนมาที่จะจัดการเลือกตั้ง ท่ามกลางการทิ้งระเบิดทางอากาศที่รุนแรงขึ้นและการเผาบ้านเรือนพลเรือน รวมถึงการจับกุมอย่างต่อเนื่อง การข่มขู่คุกคามผู้นำการเมือง นักแสดง และภาคประชาสังคม ไปจนถึงผู้สื่อข่าว เพราะหากไม่มีเงื่อนไขที่เอื้อให้ประชาชนชาวเมียนมาสามารถใช้สิทธิทางการเมืองได้อย่างเสรี การเลือกตั้งดังกล่าวก็จะยิ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพมากขึ้น”นายดูจาร์ริกกล่าว
นายดูจาร์ริกย้ำว่า กุแตเรซยังคงยืนหยัดต่อการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประชาชนชาวเมียนมา และสนับสนุนความปรารถนาต่อประชาธิปไตยของพวกเขา เพื่อสังคมที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วม สงบสุข และเป็นธรรม มีการปกป้องชุมชนต่างๆ ซึ่งรวมถึงชาวโรฮีนจาด้วย
วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ครบ 2 ปีที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ทำให้เกิดการประท้วงอย่างกว้างขวางและรัฐบาลทหารใช้กำลังปราบปรามฝ่ายต่อต้านอย่างรุนแรง
ล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เมียนมาได้ประกาศกฎหมายการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งระบุให้พรรรคการเมืองที่มีอยู่และพรรคการเมืองที่ตั้งการตั้งขึ้นใหม่จะต้องทำการจดทะเบียนใหม่ภายใน 2 เดือน และยังเต็มไปด้วยข้อบังคับต่างๆ ที่เข้มงวด อาทิ ข้อกำหนดด้านเงินทุน รวมถึการกำหนดสมาชิกขั้้นต่อของพรรคการเมืองซึ่งมากกว่าเดิมถึง 100 เท่า
นายดูจาร์ริกกล่าวด้วยว่า นางโนลีน เฮย์เซอร์ ทูตพิเศษของยูเอ็นเรื่องเมียนมา จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอาเซียนตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา เพื่อยุติความรุนแรงและสนับสนุนการให้เมียนมากลับสู่ประชาธิปไตย
“ยูเอ็นจะยังคงอยู่ในเมียนมาและจัดการกับประเด็นอ่อนไหวหลายประการที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการของกองทัพเมียนมา ท่านเลขาธิการยังขอให้ประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาและสมาชิกยูเอ็นร่วมกันเรียกร้องให้ผู้นำกองทัพเคารพเจตจำนงและความต้องการของประชาชนเมียนมาและปฏิบัติตามบรรทัดฐานของประชาธิปไตย”โฆษกยูเอ็นกล่าว
ด้านนางเฮย์เซอร์ออกแถลงการณ์ว่า การวางแผนจัดการเลือกตั้งของรัฐบาลทหารเมียนมาในปีนี้จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ และทำให้การกลับสู่ประชาธิปไตยและการสร้างเสถียรภาพในเมียนมายากลำบากมากขึ้นด้วย โดบเธอได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันสร้างจุดยืนที่เป็นเอกภาพอันหนักแน่นในการต่อต้านการเลือกตั้งดังกล่าว
