เมื่อวันที่ 15 มกราคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างหนังสือพิมพ์เวียดนามอีโคโนมิคไทม์สของทางการเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามตั้งเป้าเบื้องต้นว่าจะส่งออกข้าวได้ 6.5 ล้านตันในปีนี้ ไม่รวมส่วนที่จะขายให้กับผู้ซื้อรายใหญ่ในจีนผ่านทางชายแดน ซึ่งระดับดังกล่าวแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากยอดการส่งออกข้าวได้ 6.57 ล้านตันเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา โดยมีการกำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวปีนี้ในการประชุมของสมาคมอาหารเวียดนาม ที่นครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา
ข่าวระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวที่เวียดนามซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากอินเดียและไทย ตั้งไว้ จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงทางอาหารให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่คาดว่าจะต้องเผชิญกับภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญในปีนี้
รัฐบาลเวียดนามคาดว่า จะส่งออกข้าวได้ 1.2 ล้านตันในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งยอดการส่งออกในไตรมาสแรกนี้ส่วนใหญ่มีการลงนามในข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อปลายปี 2548
สมาคมอาหารเวียดนามระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลขายข้าวให้อินโดนีเซีย 1 ล้านตัน ขายให้ฟิลิปปินส์ 450,000 ตัน ซึ่งการส่งมอบจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนมีนาคม 2559 โดยรวมแล้ว การส่งออกข้าวของเวียดนามเมื่อปี 2548 เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อปีก่อนหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวไม่รวมการขายข้าวให้กับจีนผ่านทางชายแดน
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) คาดว่า อินเดียจะยังสามารถครองตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดของโลกในปี 2559 นี้ไว้ได้ แม้คาดว่ายอดส่งออกจะลดลง 9.6 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 10.6 ล้านตันในปีนี้ ตามด้วยไทยที่ 10.4 ล้านตัน และเวียดนามที่ 8.7 ล้านตัน โดยตัวเลขดังกล่าวของเวียดนามรวมการขายข้าวผ่านทางชายแดนให้กับจีนด้วย