นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศผ่านการออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 ธันวาคมว่า จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย โดยให้เหตุผลว่ามีความแตกต่างอย่างมากในเรื่องค่านิยมและหลักการกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต อย่างไรก็ดี เธอยืนยันว่าจะยังคงดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีต่อไป เพราะเป็นตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมทั้งระบุว่ามีการวางแผนซึ่งเธอไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่จะปลดเธอออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 5 ธันวาคมนี้
โรเบรโดเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและได้รับการยกย่องในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ ซึ่งตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ ตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีต่างก็มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งโดยมากผู้ที่ได้รับเลือกมักจะมาจากพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กัน
“ดิฉันจะไม่ยอมให้ตำแหน่งรองประธานาธิบดีถูกขโมย และจะไม่ยินยอมให้ความตั้งใจของประชาชนถูกขัดขวาง ดิฉันจะยังคงรับใช้ครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ต่อไปและเติมเต็มความฝันของพวกเขาที่จะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม” โรเบรโดกล่าว
ทั้งนี้ โรเบรโดเผยว่า ฟางเส้นสุดท้ายคือการที่เธอได้รับข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าประธานาธิบดีดูแตร์เตสั่งห้ามไม่ให้เธอเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างอย่างไม่สามารถเข้ากันได้กับรัฐบาลภายใต้การนำของดูแตร์เต ซึ่งโรเบรโดระบุว่าคำสั่งดังกล่าวทำให้เธอไม่สามารถทำงานได้ นอกจากนี้เธอยังถูกตัดงบประมาณและพบอุปสรรคในการทำงานอีกมากมาย
รายงานระบุว่า โรเบรโดไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับข้อความสั่งห้ามเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี แต่นางแพทริเซีย ลิคูแนน หัวหน้าคณะทำงานด้านการศึกษาขั้นสูงของฟิลิปปินส์ ก็ได้รับข้อความแจ้งห้ามเข้าประชุมแบบเดียวกัน อย่างไรก็ดี การลาออกของโรเบรโดนับเป็นการลาออกจากตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลดูแตร์เตรายที่ 2 ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้นางมาเรีย เซเรนา ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานด้านประวัติศาสตร์ ก็ได้ประกาศลาออกเพื่อประท้วงการตัดสินใจของดูแตร์เตที่อนุญาตให้นำศพของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส ไปฝังที่สุสานวีรบุรุษ
อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีใดๆ จากฝั่งดูแตร์เต โดยการประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยของโรเบรโดมีขึ้นท่ามกลางปัญหาทางการเมืองที่ดูแตร์เตกำลังเผชิญต่อกรณีที่เขาอนุญาตให้นำศพของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสไปฝังที่สุสานวีรบุรุษแม้จะมีผู้คัดค้านเป็นจำนวนมาก รวมถึงนโยบายการทำสงครามกับยาเสพติดที่ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากรัฐบาลชาติตะวันตกและเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชน
