นางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศกร้าวในระหว่างแถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของนายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อวันจันทร์(5 ธ.ค.)ว่า ตนจะคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อทุกนโยบายของรัฐบาลนายดูแตร์เตที่จะก่ออันตรายหรือสร้างความเสียหายต่อประชาชนชาวฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การวิสามัญฆาตกรรม”
นอกจากนี้ นางโรเบรโดยังให้คำว่าจะออกมาพูดต่อต้านแผนการของรัฐบาลนายดูแตร์เตที่จะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีกและการลดเกณฑ์อายุของผู้ที่ต้องรับความผิดทางอาญาลงมาอยู่ที่อายุ 9 ปีด้วย
“หากการเป็นผู้นำฝ่ายค้านเพื่อทำให้เกิดสิ่งนั้น ฉันก็จะเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้าน” นางโรเบรโดกล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังจากก่อนหน้านี้นางโลเบรโดได้กล่าวถึงการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดของนายดูแตร์เตที่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 4,800 ราย นับจากวันนายดูแตร์เตก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ รองประธานาธิบดีโรเบรโดยังกล่าวคัดค้านการดำเนินการของรัฐบาลนายดูแตร์เตที่ย้ายร่างนายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการฟิลิปปินส์ ไปฝังไว้ยังสุสานวีรบุรุษก่อนหน้านี้ด้วย
ข่าวแจ้งว่า การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีของนางโรเบรโดมีขึ้นหลังจากเธอถูกนายดูแตร์เตสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเธอกล่าวหาว่านี่เป็นการที่จะโค่นล้มเธอให้พ้นจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยที่พันธมิตรทางการเมืองของนายดูแตร์เตต้องการที่จะให้นายเฟอร์ดินันด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการฟิลิปปินส์ ขึ้นมาแทนที่เธอ
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายมาร์กอส จูเนียร์ ได้พ่ายแพ้คะแนนเสียงเลือกตั้งรองประธานาธิบดีให้กับนางโรเบรโดไปในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเขาได้ยื่นฟ้องทางกฎหมายว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น